รวบหนุ่มหลอกขายกรมธรรม์ปลอม เสียหายกว่า 22 ล้าน

ชลบุรี 12 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตตัวแทนประกันชีวิต หลอกขายกรมธรรม์ปลอมให้ลูกค้า ความเสียหายกว่า 22 ล้านบาท พบก่อเหตุหลายท้องที่


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จับกุมนายเสฏฐวุฒิ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ ได้แก่ หมายจับศาลอาญาที่ 795/2566 ลง 21 มี.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ, ร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยทุจริต ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นด้วยการชักชวน ชี้ช่องหรือจัดการให้ผู้อื่นนั้น ทำหรือรักษาสถานะสัญญาประกันชีวิตกับบริษัทแต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันชีวิตเกิดขึ้น หรือไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาสถานะสัญญาประกันชีวิตเดิมและโดยการหลอกลวง ดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 200/2566 ลง 21 มี.ค.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” หมายจับศาลแขวงระยองที่ 56/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”

ผู้ต้องหาถูกจับกุมบริเวณสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี สืบเนื่องจากช่วงเดือนมกราคม 2566 บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งได้รับเรื่องร้องเรียน จากกลุ่มผู้ทำประกันจำนวน 9 ราย ซึ่งได้ทำประกันชีวิตผ่านตัวแทนของบริษัทฯ และจ่ายค่าเบี้ยประกันเรื่อยมากว่า 5 ปี แต่เมื่อมีเหตุที่ต้องเคลมประกันกลับไม่สามารถทำได้ บริษัทฯ จึงตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ จากการตรวจสอบพบว่าเอกสารทั้งหมดถูกทำปลอมขึ้นโดยมีเจตนาให้ผู้ทำประกันทั้ง 9 ราย หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารของบริษัทฯ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 22,330,708.99 บาท บริษัทฯ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


จากการสอบสวนพบว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิด 2 ราย คือ นายเสฏฐวุฒิ (ผู้ต้องหา) และ น.ส.วรรณษา (ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว) โดยพบว่ามีการปลอมแปลงกรมธรรม์, สำเนาใบรับเงินชั่วคราว,ใบเสร็จรับเงินของบริษัทและหลักฐานการโอนเงินของธนาคารต่างๆ จริง นอกจากนี้นายเสฏฐวุฒิ ได้ก่อเหตุในหลายท้องที่ เช่น พื้นที่ของ สน.บางเขน และ จ.ระยอง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับไว้แล้วอีก 2 หมาย ได้แก่ หมายจับของศาลแขวงพระนครเหนือ และหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ต่อมาเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้เข้าทำการจับกุมตัว นายเสฏฐวุฒิ ได้ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง