กรุงเทพฯ 12 พ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง ปูพรมค้น 9 จุด ทลายเหมืองบิทคอยน์ ลักลอบดัดแปลงมิเตอร์กระแสไฟฟ้า ความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม และนายอุดมศักดิ์ เต็มวงษ์ รองผู้ว่าการสายงานปฏิบัติการระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมชุดปฏิบัติการ ได้แถลงจับกุมผู้ต้องหา พร้อมยึดอุปกรณ์ขุด bitcoin กว่า 100 เครื่อง ทำรัฐเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชน ว่า มีอาคารพาณิชย์ 1 หลัง มีชายวัยรุ่นเช่าไว้แต่ไม่มีผู้อาศัย แต่มีการติดกล้องวงจรปิดไว้รอบบ้าน จึงเกิดความสงสัยว่าอาจเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรหลอกเงินจากประชาชน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบผู้ต้องหาที่ 1 ได้มีการเช่าอาคารพาณิชย์แห่งนี้ และผู้ต้องหาที่ 2 ได้เช่าอาคารพาณิชย์อื่นในลักษณะเดียวกันอีก 6 แห่ง และเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวอีก 2 แห่ง รวมเป็น 9 แห่ง จากการตรวจสอบบัญชีของผู้ต้องหาที่ 1 พบว่าในห้วงเดือน ม.ค.66-ก.ย. 67 มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท จึงเชื่อว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เพื่อตรวจสอบการใช้กระแสไฟฟ้าของบ้านต้องสงสัย พบว่ามีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงผิดปกติ ซึ่งไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จึงเชื่อว่ามีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อรับกระแสไฟฟ้านำไปใช้เปิดการทำงานของเครื่องขุดเงินดิจิตอล หรือ bitcoin จึงมีการขอออกหมายค้นบ้านต้องสงสัยทั้งหมด 9 แห่ง
จนต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ทำการตรวจค้นบ้านต้องสงสัย 9 จุด และพบว่าบ้านทุกหลังมีการดัดแปลงเพื่อติดตั้งเครื่องขุด bitcoin ภายในบ้านมีระบบระบายความร้อนและเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง จากการตรวจสอบยังพบอีกว่าเครื่องมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านทุกหลังมีร่องรอยแก้ไข ดัดแปลง เพื่อให้วัดค่าปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าความเป็นจริง
เจ้าหน้าที่จึงได้มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมตรวจยึดของกลาง 4 รายการ เป็นเครื่องขุดเหรียญ bitcoin 111 เครื่อง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมจอภาพ 7 ชุด internet Router 10 ชุด และเครื่องมิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลง 10 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน (ของการไฟฟ้า)
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่า ได้มีการเช่าบ้านตั้งแต่ปลายปี 66 โดยผู้ต้องหาที่ 1 ว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 2 ให้ดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้อ่านค่าน้อยกว่าความเป็นจริง จากการตรวจสอบความเสียหายจากการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า ตรวจพบเครื่องขุด bitcoin กำลังทำงานอยู่ จำนวน 111 เครื่อง ต้องเสียค่าไฟเดือนละประมาณ 1 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายได้มีการเสียค่าไฟเพียงเดือนละ 500-2,500 บาท จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายก่อเหตุมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า เครื่องขุด bitcoin ผู้ต้องหาซื้อต่อมาเป็นเครื่องมือสอง ราคาอยู่ที่ 40,000-60,000 บาท ซึ่งสามารถซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมาย และภายใน 1 เดือนจะสามารถทำรายได้ถึง 666,000 บาท แต่เพราะว่าราคาค่าไฟอยู่ที่เดือนละ 1 ล้านบาท จึงมองว่าไม่คุ้มกัน ผู้ต้องหาจึงมีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้จ่ายเงินค่าไฟน้อยลง. -420-สำนักข่าวไทย