จับ 5 เครือข่ายยาเสพติดสำคัญ ยึดยาบ้า 13.7 ล้านเม็ด ไอซ์-ยาเคอีกเพียบ

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลุยกวาดล้าง 5 เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ก่อนขนลงใต้ ยึดยาบ้า 13.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 520 กก. และเคตามีน 850 กก.


พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับรองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 5 เครือข่าย ได้ผู้ต้องหารวม 8 คน พร้อมของกลางยาบ้า 13.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 520 กิโลกรัม และเคตามีน 850 กิโลกรัม

คดีแรก ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 สืบทราบจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเดินทางขึ้นไปรับยาเสพติดในภาคกลาง เพื่อนำส่ง ยาเสพติดไปในพื้นที่ภาคใต้ พบรถเป้าหมายเป็นรถบรรทุกขนาดเล็กมีลักษณะเป็นตู้ทึบสำหรับบรรทุกสินค้า มีนายโสมนัส เป็นผู้ขับขี่ และมีรถคุ้มกันอีก 2 คัน ขับมุ่งหน้าลงใต้ เมื่อเข้าพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบรถเป้าหมายทั้ง 3 คัน ไปจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอบางสะพานน้อย ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 12 ล้านเม็ด ไอซ์น้ำหนักประมาณ 320 กิโลกรัม


ส่วนตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ยังขยายผลจับกุมนางสาวนิตยา เครือข่ายไอซ์ รายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยจะมีการลักลอบนำเรียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ตอนในโดยใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะ จึงเฝ้าประกบในเส้นทางลำเลียงยาเสพติด กระทั่งพบรถวิ่งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอบุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ขับมุ่งหน้าไปทาง จ.สกลนคร เมื่อมาถึงสะพานแม่น้ำยาม อำเภออากาศอำนวยจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบในหลังรถยนต์ซุกซ่อนยาบ้า 3 กระสอบ ประมาณ 1,300,000 เม็ด

นอกจากนี้ ยังจับกุมนายไพโรจน์ ได้ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมยึดยาบ้า 400,000 เม็ด โดยซุกซ่อนยาบ้าอยู่ในช่องลำโพงดัดแปลงด้านหลังเบาะนั่งโดยสารตอนหลังและซุกซ่อนในช่องตัวถังรถ ในส่วนช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ สอบสวนพบนายทุนผู้ค้ายาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้ว่าจ้างให้นำยาบ้าลำเลียงจากพื้นที่ภาคเหนือนำส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางและใกล้เคียง

และยังสามารถตรวจยึดคีตามีน 850 ถุงน้ำหนักประมาณ 850 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนอยู่ในกระสอบท้ายรถกระบะ ขับมุ่งหน้าขาออกสายเอเชีย 41 ผ่าน จ.สุราษฎร์ธานีเข้าพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สอบถามผู้ขับขี่รับว่าขนยาเสพติดมาจาก จ.ระนอง เพื่อนำไปส่งที่ อ.หัวไทร


รวมถึงเข้าตรวจค้นจับกุมนายวีระเดช ขณะลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจับกุมได้ขณะจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณ อ.เมืองพิษณุโลก ตรวจค้นพบไอซ์ 10 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ซุกอยู่ในกองผักท้ายกระบะรถ

ด้าน พล.ต.อ.ชินภัทร เปิดเผยว่า สถานการณ์ยาเสพติด ขณะนี้พบผู้ค้ามักปรับเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงมาใช้เส้นทางสายรอง และแนวตะเข็บชายแดนมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นการลำเลียงจากภาคเหนือ ลงพื้นที่ภาคกลาง และภาคใต้ ก่อนกระจายสู่ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งปรับแผน เพื่อสกัดกั้นยาเสพติด และการกระจายยาลงสู่ชุมชน โดยมีการเพิ่มจุดตรวจ จุดสกัด ความเข้มงวด ตรวจตราเส้นทางสายรองมากขึ้น ส่วนการจับกุมยาเสพติดในช่วงที่ผ่านมา มักพบว่าเป็นกลุ่มผู้ค้ายังเป็นเครือข่ายรายเดิมๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกับการจับกุมคนรับจ้างขนลำเลียง แต่กลุ่มนายทุนกลุ่มเดิมๆ ที่ยังอยู่นอกประเทศ ยังไม่ถูกจับกุมและมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย