กระแสลม

โตเกียว 28 ส.ค.- องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่นหรือแจ็กซา (JAXA) ประกาศเลื่อนการปล่อยยานสำรวจดวงจันทร์เป็นครั้งที่ 3 ในวันนี้ เนื่องจากกระแสลมแรง แจ็กซาไม่ได้ประกาศกำหนดวันปล่อยครั้งใหม่ หลังจากยกเลิกในช่วงไม่ถึง 30 นาทีก่อนกำหนดการปล่อยมูน สไนเปอร์ (Moon Sniper) ซึ่งเป็นภารกิจการนำยานสลิม (SLIM) ย่อมาจาก Smart Lander for Investigating Moon ไปลงจอดภายในรัศมี 100 เมตรของเป้าหมายเจาะจงบนดวงจันทร์ พร้อมกับดาวเทียมวิจัยที่พัฒนาโดยแจ็กซา องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐหรือนาซา (NASA) และองค์การอวกาศยุโรปหรืออีซา (ESA) เจ้าหน้าที่มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ที่รับผิดชอบเรื่องการปล่อยแจ้งสื่อว่า ภารกิจถูกเลื่อนเนื่องจากกระแสลมไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการปล่อยยาน โดยจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันในการเตรียมการการปล่อยครั้งใหม่ และจะต้องปล่อยก่อนที่กระแสลมปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 กันยายน ญี่ปุ่นเคยปล่อยยานสำรวจดวงจันทร์ชื่อโอโมเตนะชิ (Omotenashi) ไปกับภารกิจอาร์เทมิสวัน (Artemis 1) ของนาซาเมื่อปี 2565 แต่ภารกิจเกิดปัญหาและการสื่อสารกับยานขาดหายไป ส่วนเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ไอสเปซ (ispace) สตาร์ทอัพญี่ปุ่นพลาดหวังที่จะได้เป็นเอกชนรายแรกที่ได้ลงจอดบนดวงจันทร์ เมื่อขาดการติดต่อกับยานสำรวจที่ตกกระแทกดวงจันทร์อย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 16 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่า บอลลูนจีนที่ถูกสหรัฐยิงตกเมื่อต้นเดือนนี้เดิมมีเป้าหมายที่จะมุ่งหน้าไปยังเกาะฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐ แต่ถูกกระแสลมพัดออกนอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามกล่าวว่า บอลลูนที่สหรัฐกล่าวหาว่าเป็นบอลลูนสอดแนม แต่จีนยืนยันว่าเป็นบอลลูนตรวจสภาพอากาศของพลเรือน ลอยเหนือหมู่เกาะอะลูเชียนของรัฐอะแลสกา จากนั้นลอยไปเหนือน่านฟ้าของแคนาดา และตอนกลางของสหรัฐ ก่อนถูกเครื่องบินขับไล่ยิงตกตามคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ตามเวลาสหรัฐ เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่า เป้าหมายของบอลลูนลูกนี้คือรัฐฮาวายและดินแดนกวมของสหรัฐ แต่ถูกกระแสลมพัดออกนอกเส้นทาง หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐรายงานเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า กองทัพและหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐแกะรอยเส้นทางของบอลลูนพบว่า ลอยขึ้นมาจากเกาะไห่หนานหรือไหหลำ ใกล้ชายฝั่งทางใต้ของจีน หลังจากกองทัพสหรัฐแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า สามารถเก็บกู้อุปกรณ์ไฟฟ้าของบอลลูน และซากขนาดใหญ่ของบอลลูนที่ถูกยิงตก.-สำนักข่าวไทย

นิวยอร์ก 4 ก.พ.- แคนาดาและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเตรียมเผชิญกับกระแสลมวนขั้วโลก (Arctic blast) ครั้งใหญ่ที่อาจทำให้บางพื้นที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐประจำภูมิภาคอเมริกาเตือนว่า หลายพื้นที่ของรัฐเมนในสหรัฐอาจมีกระแสลมเย็นจัดติดลบ 60 องศาเซลเซียส นครบอสตันประกาศปิดโรงเรียนรัฐเมื่อวันศุกร์ และคาดว่าจะมีกระแสลมเย็นจัดติดลบ 34 องศาเซลเซียส ส่วนนครนิวยอร์กที่อยู่ถัดลงมาทางใต้คาดว่าจะมีอุณหภูมิติดลบ 23 องศาเซลเซียส สำนักงานฯ ระบุว่า กระแสลมวนขั้วโลกครั้งนี้เป็นครั้งมหากาพย์ที่เกิดขึ้นในหนึ่งชั่วอายุคน หากเผชิญกับสภาพอากาศแบบนี้โดยไม่เตรียมเครื่องกันความหนาวให้เพียงพอ อาจถูกหิมะกัดเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที คาดว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายที่สุดช่วงคืนวันศุกร์ถึงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานฯ ยังได้ประกาศเตือนภัยสภาพอากาศทั่วรัฐควิเบกและภาคตะวันออกของแคนาดา เพราะคาดว่ากระแสลมเย็นจัดจะทำให้อุณหภูมิในนครมอนทรีออลในช่วงบ่ายวันศุกร์มีความเย็นเหมือนติดลบ 41 องศาเซลเซียส และน่าจะทำให้รัฐควิเบกมีอุณหภูมิติดลบ 50 องศาเซลเซียส  ส่วนที่กรุงออตตาวาของแคนาดามีหิมะตกและกระแสลมแรง 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีจนถึงวันศุกร์ ทำให้ทัศนวิสัยลดลงเกือบเป็นศูนย์ คาดว่ากระแสลมที่อุ่นขึ้นจะพัดเข้าสู่ภูมิภาคนี้ในเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

นิวเดลี 19 ธ.ค.- คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียแย่ลงอีกในวันนี้ โดยถูกจัดให้อยู่ในประเภท “แย่มาก” หลังจากท้องฟ้าปลอดโปร่งได้ไม่กี่วัน เนื่องจากอากาศที่เย็นลงและกระแสลมสงบทำให้สารก่อมลพิษกระจุกตัวอยู่ในอากาศ ข้อมูลของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพอากาศกลางของอินเดียระบุว่า คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลีที่มีประชากร 20 ล้านคน โดยทั่วไปอยู่ในระดับที่ “แย่มาก” และบางพื้นที่อยู่ในระดับ “ร้ายแรง” เฉพาะเขตอนันด์ วิหารมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 457 สูงกว่าระดับที่ดีถึง 9 เท่า หน่วยงานของรัฐบาลกล่าวโทษว่า สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิลดลงและกระแสลมมีความเร็วลดลง อุณหภูมิในกรุงนิวเดลีลดลงอยู่ในระดับ 6 องศาเซลเซียสในช่วงหลายวันมานี้ ทั้งที่ช่วงเวลานี้ของปีมักอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส ทางการอินเดียใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น ระงับโครงการก่อสร้าง ฉีดพ่นน้ำตามท้องถนน เข้มงวดกับยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่ช่วยบรรเทามลพิษทางอากาศในกรุงนิวเดลีได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนการเผาพื้นที่ทางการเกษตรเพื่อเตรียมเพาะปลูกในรัฐข้างคียงอย่างปัญจาบ หรยาณา และอุตตระประเทศได้ลดลงในปีนี้.-สำนักข่าวไทย