fbpx

ศาลนัดฟังคำสั่ง “แอม” ฟ้องหมิ่น “รพี” 5 ก.ย.นี้

กทม. 24 ก.ค.- ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่ “แอม ไซยาไนด์” ฟ้อง “รพี” หมิ่นประมาทฯ 5 ก.ย.นี้ หลังวันนี้ไต่สวนมูลฟ้องคดี ทนายความนำภาพ “ก้อย” หนึ่งในผู้เสียชีวิตให้ “แอม” ดูระหว่างเบิกความ แต่ “แอม” อ้างว่าจำไม่ได้ เนื่องจากกินยาเยอะ


ภายหลังจากการไต่สวนมูลฟ้องคดีที่นายรพี ผู้ประสานงานผู้เสียหายญาติผู้เสียชีวิตจากคดีที่นางสรารัตน์ หรือ แอม ยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการนำข้อมูลของตัวเองไปเผยแพร่ในสื่อมวลชนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีที่ต้องสงสัยวางยาไซยาไนด์ ผสมในอาหารและเครื่องดื่ม จนเป็นเหตุพบมีผู้เสียชีวิตต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำของแอม

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายรพี กล่าวว่า วันนี้ศาลได้นัดไต่สวนพยานจำเลยไป 2 คน คือ พ่อ และแม่ ของนางสาวก้อย หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่พบว่าเกี่ยวข้องกับนางสาวแอม โดยในขณะไต่สวน พบว่า แอม มีอาการหวาดกลัว โดยเฉพาะช่วงที่นำภาพถ่ายของนางสาวก้อย มาให้แอมดู โดยอ้างว่าจำภาพของนางสาวก้อยไม่ได้ เป็นผลมาจากรับประทานยามาก และไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพที่ทนายนำมาให้ดู


นายเดชา ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาแอมพูดไม่ตรงกับความจริงหลายครั้ง มีการกลับคำให้การไปมา และดูเหมือนจะหวาดกลัวกับการรับความจริง แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่ตำรวจได้นำมาสอบสวนอยู่ในสำนวนคดี จึงไม่ทราบว่าทำไมแอมถึงคิดต่อสู่คดี โดยคดีนี้ถือว่าไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษาในวันที่ 5 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.

ส่วนการที่จะขอเป็นโจทก์ร่วมของพ่อและแม่นางสาวก้อย ในคดีที่แอม ถูกฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ศาลได้นั้นตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ และมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่แน่นหนา และศาลสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้

ส่วนแม่ของนางสาวก้อย กล่าวว่า ในระหว่างที่ฟังแม่ของแอม เบิกความต่อศาลก็ไม่เชื่อในคำให้การที่บอกว่า แอมเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่คิดทำร้ายผู้อื่น แต่เห็นว่าขัดแย้งกับพฤติการณ์ของแอม และมั่นใจว่าแอมเป็นคนทำร้ายลูกสาวของตัวเอง ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้ซักค้านในคำให้การของฝ่ายโจทก์ แต่ก็ขอให้เวรกรรมมีจริง ส่วนแอม ที่เห็นในห้องพิจารณาคดี ก็พบว่ามีลักษณะซูบผอม ตัวเล็กลง และมีความกังวลหวาดกลัวอะไรบางอย่าง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง