กรุงเทพฯ 20 ก.ค.-ตลท. ประเมินปี 2566 มูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรมไซเบอร์ทั่วโลกสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในไทยปี 65 พบเสียหายสูงถึง 91 ล้านบาทต่อวัน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์-หลอกลวงออนไลน์” ครองแชมป์
ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่ SET Note เรื่อง “Cyber Attack โจรที่ติดตามตัวไปทุกที่กับ Cyber Security ที่ทุกคนต้องรู้” โดยช่วงต้นปี 2566 ประเทศไทย มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสูงถึง 61.21 ล้านคน หรือ85.3% ของประชากรทั้งหมดในประเทศ สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่อยู่ที่ 64.4% และคนไทยใช้เวลาในระบบอินเทอร์เฉลี่ยคนละ 7 ชั่วโมง 4 นาทีต่อวัน ซึ่งถือว่าคนไทยใช้เวลาบนโลกอินเทอร์เน็ต สูงสุดติด 10 อันดับแรกของโลก และมีพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตผ่านมือมากยิ่งขึ้น หรือสามารถเข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส ขณะที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์รุนแรงขึ้น เสมือนเปิดประตูหน้าหาข้อมูลและโอกาส แต่หากขาดความระมัดระวังก็เสมือนเปิดประตูหลังต้อนรับโจร
มูลค่าความเสียหายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลก มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่า ในปี2566 มูลค่าความเสียหายจะสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.5 ล้านล้านดอลลาร์สรัฐ ในปี2568 ซึ่งหน่วยงานทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนในการจัดการปัญหาด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ สอดคล้องกับจากการสำรวจของ World Economic Forum ปีล่าสุดที่เปิดเผยว่า 95% ของผู้นำองค์กรยอมรับว่าความปลอดภัยด้านไซเบอร์มีความสำคัญ ควรนำไปพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงระดับองค์กร
ขณะที่ในประเทศไทย พบว่าภัยคุกคามของอาชญากรรมทางไซเบอร์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่าง เดือนมี.ค.-ธ.ค.2565 หรือในช่วง 10 เดือนแรกที่เปิดระบบให้บริการประชาชน พบว่า มีผู้เข้ามาแจ้งความ 163,091 คดีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 27,305 ล้านบาท หรือเสียหายสูงถึง 91 ล้านบาทต่อวัน โดยกว่า 50% ของมูลค่าความเสียหาย หรือประมาณ 15,800 ล้านบาท เป็นการหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผ่านทางออนไลน์ด้วยวิธีการต่างๆ รองลงมาคือ คดีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์แต่ไม่ได้รับสินค้า การปล่อยกู้นอกระบบผ่านแอพพลิเคชั่น การหลอกลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1,230 ล้านบาทและอันดับที่ 3 คือ แฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ การเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ การคุกคามทางเพศ หลอกให้ไปทำงานต่างประเทศ
สำหรับความเสียหายในระดับองค์กรหรือหน่วยงานตามการรายงานของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศปช.) เปิดเผยว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2564 – 30 ก.ย.2565 มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 551 เหตุการณ์ โดย 2 ใน 3 เป็นการโจมตีโดยการแฮกเว็บไซต์ (Hacked website) ของหน่วยงานราชการและหน่วยงานสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานการศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังมีการคุกคามอื่นๆ ที่บริษัทเอกชนได้รับผลกระทบ อาทิ การขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลหรือระบบงาน การรั่วไหลของข้อมูล เป็นต้นซึ่งบางกรณีใช้เวลานานในการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรตระหนักถึงภัยคุกคามและร่วมมือกันป้องกัน ร่วมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) โดยตระหนักถึงภัย ระวังตัว ไม่ชัวร์ ไม่ Click ไม่แชร์ และทุกคนควรตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า “ไม่มีการลงทุนใดให้ผลตอบแทนเกินจริงหรือการลงทุนที่มีการรับประกันผลตอบแทน” ดังนั้น อย่าหลงเชื่อ ต้องตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ให้ตั้งสติ อย่ารีบร้อนเร่งลงทุนตามการเร่งให้ลงทุนหรือเร่งให้ทำธุรกรรม ก็จะช่วยลดโอกาสในการถูกคุกคามทางไซเบอร์ได้.-สำนักข่าวไทย