ซีแอตเทิล 1 พ.ย.- นักวิจัยในเมืองซีแอตเทิล ซึ่งได้ชื่อว่าซิลิคอนวัลลีย์แห่งการช่วยชีวิต กำลังเร่งสร้างนวัตกรรมในการกำจัดโรคมาลาเรียที่คร่าชีวิตคนไป 438,000 คนเมื่อปีก่อน และน่าเป็นห่วงมากขึ้นเพราะยุงดื้อยา
เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตันของสหรัฐเป็นที่ตั้งหน่วยงานด้านสาธารณสุขโลกกว่า 160 แห่ง รวมทั้งเป็นบ้านของบิลและเมลินดา เกตส์ เจ้าของมูลนิธิที่ตั้งเป้าจะกำจัดมาลาเรียให้หมดสิ้นไปภายในปี 2583 องค์การอนามัยโลกระบุว่า อัตราผู้เสียชีวิตจากมาลาเรียลดลงร้อยละ 60 นับตั้งแต่ปี 2543 แต่ความพยายามกำจัดโรคนี้เผชิญอุปสรรคใหม่จากการที่ยุงเริ่มดื้อยารักษาและดื้อสารฆ่าแมลงที่เคลือบมุ้งกันยุง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ค่าใช้จ่ายด้านมาลาเรียเพิ่มขึ้นจาก 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,550 ล้านบาท) ในปี 2543 เป็น 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 94,580 ล้านบาท) ในปี 2558 และจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทศวรรษหน้าเพื่อคิดค้นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งให้บรรลุเป้าหมายการกำจัดโรคนี้ให้ได้ภายในปี 2583
มาลาเรียเกิดจากเชื้อปรสิตที่มียุงก้นปล่องเป็นพาหะ นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีค่าใช้จ่ายไม่สูง เช่น ติดตั้งท่อระหว่างกำแพงกับหลังคาบ้านเพื่อดักจับยุงไม่ให้เข้าบ้าน วางกับดักกลางแจ้งฆ่ายุงโดยใช้น้ำตาลเป็นเหยื่อล่อ ขณะเดียวกันกำลังเร่งพัฒนาวิธีตรวจหาเชื้อปรสิตจากเลือดผู้เป็นพาหะนำโรคให้ทราบผลภายใน 20 นาทีเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากการที่ยุงไปกัดผู้เป็นพาหะ การตัดแต่งพันธุกรรมยุงด้วยการเสริมยีนเข้าไปปราบเชื้อปรสิตหรือทำให้ยุงมีแต่ลูกตัวผู้เพื่อลดประชากรยุง แต่วิธีหลังนี้มีคนเป็นห่วงว่าอาจกระทบห่วงโซ่อาหารและมีผลต่อยุงตามธรรมชาติ.-สำนักข่าวไทย