ชัวร์ก่อนแชร์: ต้องกักตุนยาปฏิชีวนะ รับมือโรคปอดอักเสบจากแบคทีเรีย จริงหรือ?

31 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในไต้หวัน ที่อ้างว่าการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycoplasma Pneumoniae ส่งผลให้ยาปฏิชีวนะ Azithromycin ขาดตลาดในไต้หวัน เนื่องจากผู้คนต่างหันมากักตุนยาปฏิชีวนะเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียนี้


บทสรุป :

Azithromycin เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ คนไข้ไม่ควรซื้อยากินเอง เพราะการใช้ยาอย่างผิดวิธี อาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อโรคดื้อยาในอนาคต

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


Azithromycin (อะซิโทรมัยซิน) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคปอดอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน โดยยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

จากการสอบถามความเห็นผู้เชี่ยวชาญโดย Taiwan FactCheck Center พบว่า ยาปฏิชีวนะ Azithromycin ในไต้หวันยังมีอย่างพอเพียงต่อการรับมือการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจในฤดูหนาว หากเกิดการขาดแคลนยา Azithromycin ขึ้นจริง ก็ยังมียาปฏิชีวนะชนิดอื่น ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนได้

อย่างไรก็ดี โรคปอดอักเสบที่พบการระบาดในจีน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง หลายรายสามารถรักษาให้หายขาดโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

ส่วนการอ้างว่าเกิดกระแสกักตุนยา Azithromycin จนขาดตลาดก็ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะยา Azithromycin ยาตามใบสั่งแพทย์ ผู้ป่วยไม่ควรชื้อยา Azithromycin มาใช้เอง เพราะยา Azithromycin ต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาในปริมาณที่มากหรือน้อยกว่าที่กำหนด เนื่องจากปริมาณการใช้ยา Azithromycin จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ขึ้นอยู่กับอายุ จุดประสงค์การรักษา และดุลยพินิจของแพทย์ และไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์

การกักตุนยา Azithromycin เพื่อนำไปใช้เองจึงเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ปัญหาการดื้อยาในอนาคต

หน่วยงานสาธารณสุขของสาธารณรัฐประชาชนจีนประเมินว่า ปัญหาการดื้อยาของเชื้อโรค (Antimicrobial Resistance : AMR) กำลังเพิ่มมากขึ้นในประเทศ ส่วนในไต้หวันก็พบว่าปัญหาการดื้อยาของเชื้อโรคเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 60%

งานวิจัยระหว่างปี 2017-2019 พบว่า มีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียถึง 77% ที่มีอาการดื้อยาต่อยาปฏิชีวนะสูตรแรก (First-Line Antibiotics) ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่ถูกต้อง ผู้ป่วยบางรายใช้ยาปฏิชีวนะรักษาอาการไอมานานแต่อาการไม่ดีขึ้น แสดงให้เห็นว่าสาเหตุของโรคอาจไม่ได้เกิดจากแบคทีเรีย ซึ่งการใช้ยาผิดประเภทนอกจากไม่ช่วยให้หายจากโรคแล้ว ผู้ป่วยยังได้รับผลเสียจากการใช้ยาอย่างผิดประเภทอีกด้วย

การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างผิดวิธี อาจทำให้ปัญหาการดื้อยาของเชื้อโรคเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้จำนวนยาที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยลดลงในอนาคตเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9957

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

“กานต์” จากเพื่อไทย คะแนนนำ ศึกชิงนายก อบจ.อุบลฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี ล่าสุด ณ เวลา 19.30 น. “กานต์ กัลป์ตินันท์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 กกต.คาดรู้ผลไม่เป็นทางการ 4 ทุ่ม คืนนี้

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”