กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – “ทนายเดชา” ขอเป็นตัวแทนหมู่บ้าน ฟ้องกลับ “สว.” เจ้าของตลาด ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังถูกฟ้องก่อนหน้านี้ พร้อมบอกไม่กลัวที่ถูกฟ้อง และขอให้ สว. เห็นหัวประชาชน
ที่ สน.มีนบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โชว์หลักฐานการฟ้องนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ที่ออกมาแถลงข่าวว่าได้ดำเนินการฟ้องทั้งทางแพ่งและอาญา ทนายความชื่อดัง 2 คน และประชาชนที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท กระทบต่อธุรกิจของครอบครัวและเครือญาติของ สว. โดยหลักฐานที่ทนายเดชานำมาฟ้องกลับคือคำพูดของนายเสรี ที่บอกว่าประชาชนเป็นพวกอันธพาล เป็นพวกทำลายชาติ ทำลายสังคม ทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของประเทศไทย คำพูดเหล่านี้ตนมองว่าเป็นคำพูดที่หมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ทนายเดชา ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่นายเสรีนำมาฟ้องนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ตนไลฟ์แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และข้อความคำพูดที่กดไลค์นั้นตนไม่เคยเอ่ยชื่อ สว.คนใดเลย แต่กลับมีคนร้อนตัวมาฟ้องตน
ทนายเดชา บอกอีกว่า ทุกอย่างที่ตนพูดเป็นความจริง ทั้งที่บอกว่าเงินเดือนของ สว. มาจากภาษีประชาชน แล้วที่บอกว่า 14 ล้านเสียงนั้นเป็นเสียงข้างน้อย และที่ตนพูดว่าเป็น สว. ต้องรำลึกบุญคุณของประชาชน ต้องเป็นกลางและฟังเสียงของประชาชน และต้องหนักแน่น ยอมรับคำวิจารณ์ของประชาชนได้ เพราะเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของตำแหน่ง สว. รวมถึงการที่ตนพูดว่า สว.บางคนนั้นเผด็จการ ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ยืนยันว่าทุกสิ่งที่ตนพูดในไลฟ์เป็นสิ่งที่พูดแทนใจคนดู
ทนายเดชา ยังพูดถึงความคิดเห็นส่วนตัวว่า การที่ สว. ฟ้องทนายความ เป็นการปิดปากทนายความ ในข้อหาหมิ่นประมาท และเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนขอประกาศว่าอย่ากลัว เราต้องกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะตนเองก็ไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร แต่กลับรู้สึกสมเพชการกระทำมากกว่า ไม่ว่าใครที่โดน สว. ฟ้องให้มาบอกตนเองได้เลย ตนเองจะช่วยเหลือทางด้านกฎหมายให้
นอกจากนี้ทนายเดชายังพูดถึงหน้าที่ของ สว. ว่าต้องโหวตตามเสียงข้างมาก เพราะเมื่อปี 2562 สว.ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาก็มีการโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากขณะนั้น แต่ทำไมในปี 2566 ถึงไม่โหวตตามเสียงข้างมากของประชาชนที่เลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และบอกว่าการที่ไม่โหวตตามสินค้ามากนั้น สว. ไม่เคยเห็นหัวประชาชนเลย
ทนายเดชาได้ฝากไปถึง สว.เสรี ในฐานะคนที่เคยรู้จักกันมานาน และเคยว่าความร่วมกันมา บอกว่าให้เอาเวลาที่ฟ้องประชาชนไปดูแลตลาดให้ดี เพราะไม่มีใครไปเดินแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นผลกรรมที่ทำไว้กับประชาชนก็ได้ อยากขอให้ฟังเสียงของประชาชน อย่าเอาเรื่องถูกคุกคามมาเป็นข้ออ้างในการไม่โหวตนายพิธา และมองว่าการที่ประชาชนไม่สนับสนุนธุรกิจเครือญาติของ สว. ถือไม่เป็นความผิดหรือว่าคุกคาม เพราะเป็นวิธีการที่ต่างประเทศก็ใช้กัน
สำหรับคดีที่ตนเองฟ้อง สว.เสรี ทางศาลอาญามีนบุรีนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 4 กันยายน เวลา 09.00 น. ส่วนคดีที่ สว. ฟ้องทนายความ จะนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 11 กันยายนนี้ ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน.-สำนักข่าวไทย