พรรครวมไทยสร้างชาติ 14 ก.ค.-“ธนกร” ติง “ชัยธวัช” แพ้แล้วพาล อ้างโหวต “พิธา” ไม่ผ่านเหตุขั้วอำนาจเก่ากดดัน บอกอย่าพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น จี้เคารพเสียงข้างมากเหมือนที่ชอบเรียกร้อง ขออย่าปลุกมวลชนกดดัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้อ้างว่าขั้วอำนาจเก่าพยายามกดดัน ส.ว.ไม่ให้โหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ เพื่อหวังพลิกขั้วรัฐบาล ว่า เลขาพรรคก้าวไกลต้องยอมรับในระบบประชาธิปไตยอย่างที่เคยใช้มาตลอด การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อแพ้โหวตแล้วกลับมาโจมตีพาดพิง อ้างว่ามีอำนาจเก่ากดดัน ส.ว. ไม่ให้โหวตสนับสนุนอย่างนั้นอย่างนี้ ตนคิดว่า นายชัยธวัช ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ใช่แพ้แล้วพาล ควรมองตัวเองว่ามีคุณสมบัติครบหรือไม่ และที่สำคัญประเด็นการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ทุกฝ่ายไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว จึงไม่ควรอ้างและกล่าวหา ว่าสาเหตุที่แพ้โหวตมาจากขั้วอำนาจเก่า
“หากรอบแรกไม่ผ่าน รอบต่อไปก็ควรเป็นความชอบธรรมที่จะให้พรรคอันดับ 2 เสนอแคนดิเดตนายกฯ ตามกระบวนการ เพราะยื้อต่อไปก็ไม่เห็นชัยชนะ อย่างที่พรรคก้าวไกลพูดย้ำอยู่เสมอว่าให้เคารพเสียงข้างมาก วันนี้ขอให้เคารพเสียงข้างมากของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนนายพิธาตามระบบรัฐสภา ที่เป็นประชาธิปไตย อย่าแพ้แล้วพาลโทษคนอื่นขอให้กลับไปทบทวนตัวเอง มีวุฒิภาวะมากกว่านี้ อย่าพูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่นแบบนี้ไม่ใช่สุภาพบุรุษ” นายธนกร กล่าว
ส่วนกรณีนายชัยธวัชบอกว่าจะสู้จนถึงที่สุด เพราะให้สัญญาประชาชนจำนวนมากที่ยังสนับสนุนจึงถอยเรื่องนี้ไม่ได้ และยังเสนอสภาปิดสวิตช์ ส.ว. ยกเลิกมาตรา 272 ไม่ให้อำนาจ ส.ว. ด้วย นายธนกร กล่าวว่า การเดินแนวทางนี้ของพรรคก้าวไกลกำลังเป็นการปลุกระดมมวลชนในทางอ้อม จะเห็นได้ว่าเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) มีการนัดหมายมวลชนในทุกจังหวัดเพื่อติดตามการโหวต ต้องการนำสถานการณ์ไปให้ถึงความสุกงอมโดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ความมีเสถียรภาพของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจทั้งหมด ตนมองว่าหากพรรคก้าวไกลนึกถึงบ้านเมืองประเทศชาติ และประชาชนจริง ก็ขอให้ทบทวน
“ไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลต้องการเข้ามาพัฒนาประเทศจริงหรือไม่ตามที่ได้ประกาศ แต่การที่เดินแนวทางการเมืองแบบนี้ท้ายที่สุด แม้จะชนะด้วยมวลชน แต่ก็เป็นการชนะบนซากปรักหักพัง ถามว่าจะเดินไปแบบนั้นจริงหรือ ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน ประเทศเดินมาไกลแล้ว ผมไม่อยากบ้านเมืองกลับไปสู่วังวนแห่งความขัดแย้งเผาบ้านเผาเมืองอีก ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้วางรากฐานที่ดีในทุกด้านไว้แล้ว รัฐบาลใหม่มาก็เดินหน้าต่อได้ ใครจะได้เป็นรัฐบาลก็ว่ากันไปตามครรลองประชาธิปไตย” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย