กทม. 27 มิ.ย.- ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลตรวจค้นและอายัดทรัพย์ราชาคริปโตชาวจีน หลังจับกุมตัวได้เมื่อเดือนที่แล้ว อายัดทรัพย์บ้าน คอนโดฯ หรูย่านสาทร มูลค่ากว่า 6 ร้อยล้านบาท
13.35 น. พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงสรุปผลปฏิบัติการ Trust No One ล่าขุมทรัพย์ทุนจีนคริปโต EP.2 หลังขยายผลตรวจค้นยึดทรัพย์คอนโดมิเนียมและบ้านพักหรูในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 จุด และบ้านพักที่ใช้เป็นที่อยู่จดทะเบียนบริษัทอีก 2 จุด มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาทไปเมื่อวานนี้
คดีนี้สืบเนื่องมาจากตำรวจไซเบอร์ได้รับแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับคดีหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งคนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก่อนจะชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มปลอมสำหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัลหรือสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งในไทยและต่างประเทศมากกว่า 20,000 คดี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ฉ้อโกงประชาชน และการฟอกเงิน ตำรวจไซเบอร์จึงประสานหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ หรือ HSI และหน่วยงานต่างประเทศ จนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายตัวจริง คือนายเซาเซียน ซู และ นางคียิ ยี เพื่อนสาวคนสนิท คาบ้านพักหรูมูบค่ากว่า 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นปฏิบัติการใน EP.1
หลังจากนั้นตำรวจจึงได้ขยายผลตรวจสอบพยานหลักฐานที่ยึดทรัพย์มาได้พบโฉนดที่ดิน 3 ฉบับ และเอกสารจดทะเบียนบริษัท ซึ่งพบว่ามีการใช้นอมินีคนไทยจดทะเบียนบริษัทและถือหุ้นแทนหลายบริษัท โดยเงินที่ได้จากการหลอกลวงแล้วนำไปฟอกผ่านสกุลเงินคริปโต สุดท้ายจะถูกโอนกลับเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูหลายแห่งในไทย จึงนำไปสู่การเข้าค้นยึดทรัพย์บ้านและคอนโดมิเนียมหรู 10 แห่งเมื่อวานนี้ <<26 มิ.ย.>>
นอกจากนี้ตำรวจยังยึดเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่จะใช้ในการขยายผลแหล่งที่มาของเส้นทางการเงินที่นำมาใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนอสังหาริมทรัพย์ที่เหลือ ที่ตำรวจเตรียมเปิดปฏิบัติการเข้าค้นและยึดทรัพย์ต่อใน EP.3 ภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยเบื้องต้นมีบ้านพักที่ข้อมูลค่อนข้างชัดเจนแล้ว 23 หลังที่เตรียมเข้าตรวจค้น รวมถึงจะขยายผลจับกุมคนไทย และคนจีน ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนายซูอีกจำนวนหนึ่ง
สำหรับนายซู ตัวการใหญ่ที่จับกุมไปก่อนหน้านี้ใน EP.1 ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ถูกตำรวจสากลออกหมายแดงในคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 180 ล้านหยวน เป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัวเป็นอย่างมาก พบความเสียหายทั่วโลก โดยในไทยมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 3 ราย รวมถึงมีรายงานผู้เสียหายในสหรัฐเมริกาแจ้งความแล้ว 1 ราย และในอังกฤษอีก 1 ราย มีการอายัดกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายบัญชี
ซึ่งจากการสอบปากคำนายซู ให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจไซเบอร์มีหลักฐานชัดเจน รวมถึงโทรศัพท์มือถือของนายซู ที่นายซูพยายามลบข้อมูลแล้วแอบโยนทิ้งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ซึ่งตำรวจไซเบอร์เชื่อว่ามีข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับเครือข่ายและเส้นทางการเงินทั้งหมดอยู่ภายใน ขณะนี้ได้ให้ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐช่วยกู้คืนข้อมูลในโทรศัพท์ดังกล่าวแล้ว .-สำนักข่าวไทย