ภูเก็ต 15 มิ.ย. – ดีเอสไอบุกภูเก็ต ค้นสำนักงานกฎหมายและรับทำบัญชีรายใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต หลังมีหลักฐานการรับจดทะเบียนบริษัทซื้อที่ดินเข้าข่ายนอมินี มีหญิงไทยที่สามีเป็นชาวอังกฤษดำเนินการ และตั้งบริษัทร่วม 100 บริษัท ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ นำทีมผู้เกี่ยวข้องลุยตรวจสอบสำนักงานกฎหมายและจัดทำบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายอีก 2 แห่ง โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบพนักงานประมาณ 40 คน ยังทำงานปกติ มีลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาขอจัดตั้งบริษัท ส่วนพยานหลักฐานที่โยงมาสู่การตรวจสอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า สำนักงานกฎหมายแห่งนี้จัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติมากเกือบ 100 บริษัท โดยมี 44 บริษัทเกี่ยวข้องกับที่ดิน และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย นอกจากนี้ บางบริษัทยังประกอบธุรกิจที่ต้องห้ามสำหรับบุคคลต่างด้าว เช่น การครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือที่ดิน หรือเมื่อมีการครอบครองแล้วปล่อยเช่า หรือการซื้อขายเปลี่ยนมือ นอกจากนี้ยังประกอบอาชีพอื่นๆ ที่เข้าลักษณะต้องห้ามด้วย ที่สำคัญการสืบสวนยังพบว่า มีการดำเนินการมาแล้วกว่า 15 ปี แต่ไม่เคยถูกจับกุม ทำให้มูลค่าความเสียหายมีประมาณ 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ลักษณะการทำผิดในรูปแบบนี้กระจายในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ และพื้นที่ท่องเที่ยวในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีมูลค่าสูง ต่างชาติเข้ามาอาศัยถือครอง โดยต่างชาติเป็นเจ้าของบริษัทที่แท้จริง มีคนไทยเป็นกรรมการร่วมในลักษณะนอมินี โดยการซื้อขายเป็นแค่การเปลี่ยนกรรมการบริษัทผู้ถือหุ้น ทำให้ไม่มีการจ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งรวมๆ แล้วประมาณ 10% เพราะไม่ได้ซื้อขายจริง
ส่วนกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลัง เบื้องต้นพบว่ายังเป็นเรื่องของบุคคล เป็นการลงทุนของคนที่เห็นโอกาสและมาดำเนินการ ซึ่งในส่วนของบริษัทที่ทำลักษณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต คาดว่ามีหลายสิบราย ทั้งนี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์กับผู้เกี่ยวข้องให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะบางกรณีเชื่อว่าเป็นการอำนวยความสะดวกและให้ความเป็นธรรมกับต่างชาติที่จะมาลงทุนอย่างถูกต้อง. – สำนักข่าวไทย