“ปศุสัตว์” จับอีก ลอบนำเข้าโค 24 ตัวผ่านชายแดนแม่สอด

ตาก 19 พ.ค.- กรมปศุสัตว์เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าโคจากเมียนมาต่อเนื่อง ล่าสุดด่านกักกันสัตว์ตากผนึกกำลังด่านกักกันสัตว์กำแพงเพชร ตรวจพบรถบรรทุกลอบขนโค 24 ตัว ข้ามแดนมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก จึงสกัดกั้นเอาไว้ได้ ส่งตำรวจดำเนินคดีและขยายผลแล้ว


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กองสารวัตรและกักกัน รายงานผลการปฏิบัติงานร่วมของเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ตากและชุดเฉพาะกิจด่านกักกันสัตว์กำแพงเพชร ในการลาดตระเวนและตรวจสอบการเคลื่อนย้ายสัตว์ เพื่อป้องกันการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ บริเวณพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการลักลอบนำโคจากประเทศเมียนมาเข้าสู่ประเทศไทย โดยใช้รถบรรทุกเป็นพาหนะ

จากการลาดตระเวนในเวลากลางคืน พบรถบรรทุกลักษณะตรงตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จอดอยู่ในพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ หมู่บ้านสันทราย หมู่ที่ 10 ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบชายประมาณ 5-6 คน อยู่บริเวณรถบรรทุกคันดังกล่าว แต่ชายทั้งหมดอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป


ต่อมาเจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ สถานีตำรวจภูธรแม่สอด เพื่อร่วมกันตรวจสอบรถบรรทุก พบโค 24 ตัว โดยระหว่างการตรวจสอบไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นผู้ครอบครองรถบรรทุกและโคดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดตามความผิด มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ที่กำหนดไว้ในประกาศ เข้า ออก ผ่านเขตหรือภายในเขตนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้นในทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย มีโทษตามมาตรา 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นพื้นที่ที่มีการนำเข้าโค กระบือ แพะ แกะ จากประเทศเมียนมา แต่กรมปศุสัตว์ได้ประกาศชะลอการนำเข้าโค กระบือ แพะ แกะ จากประเทศเมียนมา ตั้งแต่วันที่  มีนาคม 2566 เป็นต้นมา เนื่องจากมีรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยในประเทศเมียนมา

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้ด่านกักกันสัตว์ที่มีพื้นที่ติดชายแดนประเทศเมียนมาทุกแห่งเข้มงวดตรวจสอบและเฝ้าระวังการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ โดยจัดอัตรากำลังลงพื้นที่กว่า 100 นาย ตั้งจุดตรวจสกัดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดลาดตระเวนและหาข่าวตามแนวชายแดน ตลอดจนประสานหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานศุลกากร ทหาร ตำรวจ เพื่อบูรณาการทำงานป้องกันและเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสัตว์และซากสัตว์ พร้อมทั้งให้รายงานและดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง


ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ หรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ด่านกักกันสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 063-225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง