ลานคนเมือง 12 พ.ค. – “ชวน หลีกภัย” ส่งคลิปร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาหลักบ้านเมือง อย่าให้อิทธิพลของเงิน เปลี่ยนอุดมการณ์ประชาธิปไตย
12 พ.ค.66 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยยิ่งใหญ่ ปลุกคนไทย #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” ที่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีบรรดาผู้สมัคร ส.ส.เขต กทม. ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมแกนนำคนสำคัญของพรรคเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมเป็นพิธีกร
สำหรับนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมปราศรัยใหญ่ด้วยคลิปวิดีโอ โดยระบุเหตุผลว่า ตนติดคำมั่นสัญญาที่ต้องไปขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้ายของ จ.พัทลุง และพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) จะตระเวนพบพี่น้องประชาชนใน จ.ตรัง ทั้งจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมีความตั้งใจเดินทางพบพี่น้องประชาชนทั้ง 77 จังหวัด แต่ทำได้เพียง 50 จังหวัด เพราะจำเป็นต้องมาภาคใต้ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีพฤติกรรมใช้เงินรุนแรงขึ้น แม้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว 90 ปี และมีความก้าวหน้าไปมาก แต่มีสิ่งแปลกปลอมอันหนึ่งที่ติดตามมาก็คือ ปัญหาการเมืองทุจริต มีการซื้อเสียง มีการใช้วิธีการที่ไม่สอดคล้องกับวิถีประชาธิปไตยในอุดมคติได้ดังที่มีความตั้งใจ แม้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับจะมีเจตนารมณ์ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ตาม
จากสาเหตุนี้ ทำให้ตนจำเป็นต้องกลับมาอยู่ในพื้นที่ เพื่อรณรงค์ให้กับพี่น้องประชาชนว่า เราต้องไม่ยอมให้อิทธิพลของเงิน เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ประชาธิปไตยของเรา พร้อมกับตั้งข้อสังเกตใน 2 ประเด็น
ประการแรก ขอให้พวกเราชาวไทยทั่วประเทศที่รักประชาธิปไตย ได้ร่วมกันป้องกัน และไม่ยอมรับการซื้อเสียง ไม่ว่าจะมาจากผู้มีอำนาจในระดับไหนก็ตาม หรือจากพรรคการเมืองไหนก็ตาม รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือหลักว่า “ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ”
ประการที่ 2 ด้วยการแก่งแย่งเพื่อชิงอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้ ทำให้พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ไม่สนใจเรื่องชอบธรรม ที่พูดกันว่า “เราเลือกผู้แทนอย่างไร เราจะได้ผู้แทนอย่างนั้น ถ้าเราได้ผู้แทนซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง เราก็จะได้รัฐบาลซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง” เพราะระบบของเรานั้น เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น เมื่อเสียงข้างมากผสมไปด้วยกลุ่มการเมืองที่มาจากระบบใช้เงิน จึงต้องมาหาผลประโยชน์ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และผลเสียหายก็จะเกิดกับพี่น้องประชาชน
“นี่เป็นโรคระบาดอันดับหนึ่งที่ทำให้ความเจริญก้าวหน้าของไทยไม่ถึงที่สุด ถ้าคะแนนเต็มสิบ เราไม่มีวันได้เต็มสิบ เราจะได้แค่ 7 แค่ 8 เพราะการทุจริตเป็นอุปสรรคทำลายความเจริญก้าวหน้าของเรา ผมต้องกราบเรียนในโอกาสท้ายๆ ก่อนวันเลือกตั้งว่า ขอได้โปรดสนับสนุนพรรคการเมืองที่ดำรงมาด้วยความชอบธรรม 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง มีส่วนดีมากกว่า พรรคนี้ก็อยู่ไม่ได้ เพราะพรรคที่ตั้งพร้อมๆ กันมาก็มีอันเป็นไปทั้งหมด ดังนั้น ขอให้พี่น้องถือว่าบ้านเมืองเราอยู่ได้ด้วยการรักษาหลัก พรรคที่รักษาหลักบ้านเมืองอย่างแท้จริงคือพรรคประชาธิปัตย์” อดีตประธานรัฐสภา กล่าว
พร้อมกับกล่าวเสริมว่า หลักของบ้านเมืองนั้น ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักธรรมาภิบาล หลักความชอบธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นกลไก เครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปข้างหน้าเป็นอย่างดี และเมื่อเหลียวมองไปรอบๆ ตนก็เห็นว่ามีพรรคเฉพาะกิจบางพรรค รวมทั้งพรรคการเมืองที่ทำธุรกิจการเมืองอยู่ในประเทศของเรา หากเราได้พรรคเหล่านั้นมาบริหารบ้านเมือง แน่นอนว่าความพร้อมในการพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายตามอุดมการณ์ และปณิธานของพี่น้องคนไทยที่อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปข้างหน้าจะไม่เป็นผลเกิดขึ้นได้จริง
ย้ำกับพี่น้องประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ว่า จากการลงพื้นที่ก็พบว่า พี่น้องประชาชนยังมีความสับสน เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเป็นการเลือกตั้งแบบใช้บัตรใบเดียว แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 ทำให้มีบัตรลงคะแนน 2 ใบ คือ บัตรสีเขียว เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และบัตรสีม่วง เลือก ส.ส.เขต ที่พรรคได้ส่งลงสมัครทั่วประเทศ
“ผมเป็นผู้หนึ่งที่สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 26 จึงขอให้พี่น้องได้ช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองที่ยืนหยัดอยู่บนความซื่อสัตย์ สุจริต และอยู่คู่กับหลักการ ความชอบธรรมของบ้านเมืองด้วย ดังนั้น นอกจากการเลือก ส.ส.เขตของพรรคในบัตรสีม่วงแล้ว ก็ต้องเลือกเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ในบัตรสีเขียวด้วย” นายชวน กล่าว. – สำนักข่าวไทย