กรุงเทพฯ 3 พ.ค. – “อนุทิน” สวน “ประเสริฐ” ปมโบ้ย รมว.สธ. ปลดล็อกกัญชา แนะอ่านกฎหมายให้ชัดก่อนออกความเห็น แอบเหน็บ ‘ชูวิทย์’ เล่นละครการเมือง บอกใบ้ผู้อยู่เบื้องหลังเกมป่วนเป็นนักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี
วานนี้ (2 พ.ค. 66) ที่โดมหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดง กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ปลดล็อกกัญชา ก่อนมีกฎหมายควบคุมว่า นี่ปล่อยไก่แล้วนะ คนปลดล็อกคือคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่มีนายกฯ เป็นประธาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ลงนามตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ไม่มีการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา เมื่อมติมาอย่างไร รัฐมนตรีต้องลงนาม ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อเขามีมติมาแล้ว รัฐมนตรีต้องเซ็น ที่ท่านเลขาฯ พูดออกมา บางทีต้องไปศึกษากฎหมาย ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร”
เมื่อถามว่าทำไมพรรคเพื่อไทยหันมาโจมตีภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายกัญชาทางการแพทย์ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสาน คำตอบมันมีอยู่ ไม่อยากไปพูดเรื่องความขัดแย้งแล้ว ถ้าใครมีอะไรก็ดี นำเสนอในสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ประชาชน และถ้าพรรคอื่นมีอะไรดีเราก็พร้อมสนับสนุนท่านแน่นอน ประเทศไทยจะได้ก้าวหน้า.-สำนักข่าวไทย
“อนุทิน” แอบเหน็บ! เข้าใจบทบาท “ชูวิทย์” เล่นละครการเมือง
นายอนุทิน กล่าวภายหลังการขึ้นปราศรัย ซึ่งกิจกรรมวันนี้มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คอยตะโกนป่วนอยู่ด้านนอกว่า ไม่รู้สึกอะไร เพราะลำโพงเสียงดังกว่า สำหรับพี่น้องประชาชน ท่านมาฟังเรื่องที่เป็นประโยชน์ ท่านมีเป้าหมายแล้วว่าจะฟังใคร การปราศรัยไม่เสียสมาธิ ได้พูดนโยบายอย่างครบถ้วน นายชูวิทย์มาแบบนี้ดีมีโปรโมเตอร์มาช่วย ไม่ต้องจ้าง
“เอาไว้ละครปิดทุกฉาก ทุกอย่างจบลง ทุกคนเกษียณ เดี๋ยวก็ได้คุยกัน ตนกับนายชูวิทย์รู้จักกันมาเป็นสิบปีแล้ว ทั้งรุ่นตนและรุ่นลูก ลูกนายชูวิทย์ยังมาพักที่บ้านตนที่อังกฤษอยู่เลย ตอนนายชูวิทย์แต่งงาน ตนก็ขึ้นพูด มั่นใจว่ามันเป็นบทบาท เป็นละคร เพื่อวัตถุประสงค์อะไรก็ตามแต่ แต่พื้นฐานคือเรารักกัน และถ้านโยบายของเราไม่ได้ ผลการเลือกตั้งจะบอกเอง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าวันนี้ได้ทักทายกันแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ทักทายกันแล้ว เจอหน้าต้องแอ็กอาร์ท ลับหลังอาจจะกอดกันก็ได้ ที่จริงเราให้กำลังใจกันไม่รู้กี่รอบแล้ว วันหลังจะเอาแชทหวานมาให้ดู แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้ เรื่องทั้งหมดตนเข้าใจบทบาท ตอนตนเป็นนักธุรกิจ กว่าจะได้อะไรมาต้องแข่งขันกัน ไม่ต่างจากชีวิตตนทุกวันนี้ สิ่งที่เจอคือเรื่องปกติ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง เชื่อกันว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ ที่จริงเขากับตนก็มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างมันคือละคร.-สำนักข่าวไทย