กรุงเทพฯ 2 พ.ค.-ไทยจับมืออาเซียน พัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ก้าวสู่ศูนย์กลางยานยนต์ระดับโลก รอเปิดรับ “ติมอร์ – เลสเต” เป็นสมาชิกใหม่
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค และร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ – เลสเต ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อร่วม ประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 22 วันที่ 6 – 7 พฤษภาคม 2566 และการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 42 วันที่ 10 – 11 พฤษภาคม 2566 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
สาระสำคัญของร่างปฏิญญาผู้นำอาเซียน ว่าด้วยการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการปล่อยคาร์บอน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน โดยส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค ผ่านการกระจายการลงทุน และการส่งเสริมการลงทุน ที่ยั่งยืน และยังร่วมมือกับ ภาคเอกชน เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สถานีอัดประจุไฟฟ้า ความร่วมมือการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า ในอนาคตอาเซียนจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น คือ ติมอร์ – เลสเต ซึ่ง ครม.ได้เห็นชอบร่างภาคผนวกประกอบแผนการดำเนินงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ – เลสเต ในส่วนของเสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยติมอร์ – เลสเต ต้องมีความพร้อม ตามความตกลงและตราสารสำหรับเสาประชาคมเศรษฐกิจ ต้องเข้าร่วมภายใน 2 ปี หลังเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน โดย ร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ไม่ใช่สนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตาม มาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น การให้ความเห็นชอบเอกสารทั้งสองฉบับ จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป ตามมาตรา169 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย.-สำนักข่าวไทย