เวียงจันทน์, 10 ต.ค. — นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน เผยวานนี้ว่า จีนสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างแข็งขัน รวมถึงสถานะศูนย์กลางของอาเซียนในความร่วมมือระดับภูมิภาค และการมีบทบาทในกิจการระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
จีนพร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกกับทุกฝ่ายเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือระดับภูมิภาคที่สำคัญ และส่งเสริมความพยายามร่วมกันในการทำให้ภูมิภาคแห่งนี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาระดับโลก
นายหลี่กล่าวถ้อยคำข้างต้นในแถลงการณ์ฉบับลายลักษณ์อักษร ซึ่งเผยแพร่หลังจากหลี่เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัตไตของนครหลวงเวียงจันทน์เมื่อค่ำวันพุธ (9 ต.ค.) โดยหลี่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำว่าด้วยความร่วมมือเอเชียตะวันออก และเดินทางเยือนลาวอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในวาระปัจจุบัน
นายหลี่ระบุในแถลงการณ์ว่านับตั้งเริ่มต้นปี 2024 ลาวมีบทบาทนำในฐานะประธานอาเซียนตามวาระหมุนเวียน ซึ่งมุ่งเน้นความร่วมมือเชิงปฏิบัติ สร้างฉันทามติระหว่างทุกฝ่าย พร้อมผลักดันความคืบหน้าและความสำเร็จครั้งใหม่ในการสร้างประชาคมอาเซียนและความร่วมมือเอเชียตะวันออก
นายหลี่กล่าวว่าในช่วงหลายปีมานี้ จีนและลาวดำเนินความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านอย่างลึกซึ้งและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายใต้การชี้นำของสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีน และทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานประเทศลาว ขณะที่สายสัมพันธ์ทวิภาคีได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน
ปัจจุบันจีนกำลังดำเนินการปฏิวัติรอบด้านอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานเพื่อมุ่งหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายในร้อยปีที่สองของการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่มีความยิ่งใหญ่ทุกด้าน ขณะที่ลาวกำลังเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ด้วยการปฏิรูปและการเปิดกว้าง เพื่อก้าวหน้าบนแนวทางสังคมนิยมต่อไป
จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับลาวเพื่อเสริมสร้างยุทธศาสตร์การพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เสริมสร้างความสามัคคีและการประสานงาน และผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการสร้างประชาคมจีน-ลาวที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศมากขึ้น
ในระหว่างการเยือนลาว นายหลี่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน ครั้งที่ 27 การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 27 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคมนี้.-813.-สำนักข่าวไทย