กรุงเทพฯ 5 มิ.ย.-‘บอย ยูนิตี้’ หอบหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ชี้รถที่ถูกดีเอสไออายัดนำเข้าถูกต้อง พร้อมฟ้องดีเอสไอข้อหาละเมิดเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน
นายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมการบริษัทเอสทีที ออโต้ คาร์ เซอร์วิส จำกัด ย่านรัชดาภิเษกและสุขุมวิท 63 พร้อมทีมทนายความ และที่ปรึกษา แถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ต่อสื่อมวลชน หลังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการตรวจอายัดรถหรูในโชว์รูมจำนวน 34 คัน ในข้อหาสำแดงภาษีเท็จ และสั่งปิดโชว์รูมทั้ง 2 แห่งนานกว่า 3 สัปดาห์
นายอินทระศักดิ์ ได้นำหลักฐานสำคัญ อาทิใบรับรองการเสียภาษี หนังสืออนุญาตการนำเข้าจากประเทศต้นทาง และใบขนส่งสินค้า เป็นต้น แสดงต่อสื่อมวล โดยยืนยันรถทั้ง 34 คัน ประกอบด้วยรถใหม่ของบริษัท 13 คัน รถที่ลูกค้าฝากขาย 6 คันและที่เหลือเป็นรถที่รอการซ่อมบำรุง ที่ถูกดีเอสไออายัดไปทุกคันเป็นรถที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบ ไม่ใช่รถที่โจรกรรมมาตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งตั้งแต่อายัดรถและปิดโชว์รูมทั้ง 2 แห่ง ห้ามคนเข้าออก โดยไม่มีคำสั่งของศาล ทำให้บริษัทเกิดความเสียหายนับร้อยล้านบาท ขณะที่พนักงานในบริษัทเองต้องหยุดงานไม่มีรายได้ เช่นเดียวกับผู้บริโภคไม่มีศูนย์ซ่อม และไม่กล้าซื้อรถมาใช้ รวมถึงคนที่มีรถซุปเปอร์คาร์ก็ไม่กล้านำออกมาขับ เพราะความไม่ชัดเจนของดีเอสไอ
ส่วนกรณีรถลัมโบร์กีนี สีเขียว เป็น 1ใน 7 คัน ที่ดีเอสไอระบุว่าโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะรถคันนี้ มีเอกสารนำเข้าถูกต้อง ซึ่งตั้งแต่นำเข้ารถคันดังกล่าวมาที่ไทยเมื่อวันที่ 2ก.พ.2560 เคยถูกเจ้าหน้าที่กองปราบปราม สภ.ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ทำการตรวจ สอบแล้ว ซึ่งพบว่านำเข้าถูกต้องทุกอย่างและได้ลงบันทึกประจำวันไว้ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมดีเอสไอ ถึงกล่าวหาแบบนั้น แต่ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ถูกกระทำจากดีเอสไอ อาจเพราะว่าก่อนหน้านี้เคยมีความขัดแย้งกับผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการยื่นฟ้องดีเอสไอและพวกอีก3 คน ได้แก่พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง, ร.อ.กลวิตร บุนนาคและ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในข้อหาละเมิดและเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท และจากนี้จะทำหนังสือร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานภาครัฐอีก 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวด้วย .-สำนักข่าวไทย