นนทบุรี 21 เม.ย.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในเฝ้าติดตามค่าไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด เพราะค่าไฟฟ้าที่แพงยอมกระทบต้นทุนผลิตของสินค้า ระบุมีผู้ผลิตสินค้า ยื่นขอปรับราคา มายังกรมการค้าภายในจำนวนไม่มากนักส่วนใหญ่ยังแบกรับภาระต้นทุนด้วยลดผลกระทบให้กับประชาชนไม่น้อย
ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวย้ำว่า ได้ติดตามสถานการณ์ราคาค่าไฟฟ้า แม้จะไม่ใช่หน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง แต่ได้ติดตามใกล้ชิด เพราะค่าไฟฟ้า ถือเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของสินค้า ใน 2 ส่วน คือต้นทุนการผลิต เช่น ใช้ในการเดินเครื่องจักร อีกส่วนคือใช้ในการบริหารจัดการ หรือ ต้นทุนการขายต่างๆ ซึ่งแต่ละสินค้า จะมีสัดส่วนจากต้นทุนค่าไฟแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทสินค้า แต่ถือว่าน้อยมาก เพราะบางสินค้า ก็ไม่มีต้นทุนจากไฟฟ้าเลย
ทั้งนี้ การจะขอปรับขึ้นราคาสินค้า จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งราคาพลังงานโดยรวมไม่เฉพาะค่าไฟฟ้าเท่านั้น ยังมีค่าน้ำมัน หรือ ค่าแก๊ส และอีกหลายปัจจัย โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งแตกต่างกับไปแต่ละสินค้า รวมไปถึงค่าจ้างแรงงาน ที่จะต้องนำมาพิจารณา และจะต้องพิจารณาเป็นรายสินค้าไป ซึ่งในส่วนของค่าไฟ จากการข้อมูลในช่วงเดือนมกราคม ถึง เมษายน ค่า FT เฉลี่ยอยู่ที่ 5 บาทกว่าต่อหน่วย ส่วนในรอบเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม มีการปรับลด เหลือ 4.77 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะบรรเทาต้นทุนผู้ประกอบการ และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้ส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีผู้ผลิตสินค้า ยื่นขอปรับราคา มายังกรมการค้าภายใน จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากผู้ประการให้ความร่วมมือตรึงราคาสินค้า รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งตั้งใจไม่ปรับราคา เพราะกังวลว่าอาจจะกระทบกับยอดขาย โดยส่วนใหญ่เป็นการยื่นขอตั้งราคาสินค้า ที่ทำผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา เช่น ปรับเปลี่ยนรถชาติ ซึ่งก็ยังคงให้ราคาเดิมตามผลิตภัณฑ์เดิมเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย