กรุงเทพฯ 23 มี.ค.- เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงปลื้มกรมปศุสัตว์ เชื่อมตลาดรับซื้อไก่งวงแช่แข็งที่ค้างสตอกทั้งหมดประมาณ 40 ตัน ผู้ประกอบการเตรียมนำไปแปรรูปและเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ พร้อมวางแผนการรับซื้อไก่งวงมีชีวิตที่รอเข้าโรงเชือดส่วนระยะยาวจะร่วมกันจัดทำแผนการผลิตให้เหมาะสมกับความต้องการตลาดตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้เร่งช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวงที่ประสบปัญหาด้านการตลาด ส่งผลให้ไก่งวงที่แช่แข็งค้างสต็อกอยู่ในห้องเย็นน้ำหนักประมาณ 40 ตัน ทั้งยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงเกษตรกรในกลุ่มเครือข่ายที่กำลังเลี้ยงและรอส่งเชือดชำแหละในหลายพื้นที่ ในวันนี้จึงเชิญสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย นำโดยนายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (Thai Pet Food Trade Association)และบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มาร่วมหารือกับผู้แทนกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง นำโดยคุณศรีสุนันท์ พวงอินทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนไก่งวงราชบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ไก่งวง
จากการหารือได้ข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการจะรับซื้อไก่งวงแช่แข็งที่ค้างสต็อกทั้งหมด โดยบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะนำไก่งวงแช่แข็งไปแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภค ส่วนสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทยจะรับซื้อไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet food)
พร้อมกันนี้ยังร่วมกันวางแผนการรับซื้อไก่งวงมีชีวิตที่รอเข้าโรงเชือด หลังจากระบายไก่งวงที่แช่แข็งค้างสต็อกออกไปได้ทั้งหมด เป็นการบรรเทาปัญหาของเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงไก่งวง ส่วนในระยะยาวได้ร่วมกันจัดทำแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง โดยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มไก่งวงแบบปล่อยอิสระ (Free range) ประสานโรงฆ่าสัตว์เพื่อยกระดับการฆ่าสัตว์ให้ได้มาตรฐาน เพื่อการส่งออกไก่งวง รวมถึงเจรจาการเปิดตลาดต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสการส่งออกเนื้อไก่งวงและผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรม ส่งเสริมให้มีการแปรรูปเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าเช่น ไส้กรอก ไก่จ๊อ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้ช่วยหาตลาดในประเทศและตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย