บลันไทร์ 18 มี.ค. – สหประชาชาติกล่าววานนี้ว่า พายุไซโคลนเฟรดดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 460 ราย ในภาคใต้ของทวีปแอฟริกา และส่งผลกระทบกับประชาชนมากกว่าครึ่งล้านคนในประเทศมาลาวี
ไซโคลนเฟรดดีทำให้เกิดฝนตกหนักมีปริมาณเท่ากับฝนตกเป็นเวลานาน 6 เดือน ในช่วงเวลาแค่ 6 วัน ในภาคใต้ของมาลาวี ทำให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่เกษตรกรรม
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือโอซีเอชเอ กล่าวในรายงานว่า ประชาชนในมาลาวีได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนเฟรดดีมากกว่า 500,000 คน และมีประชาชนมากกว่า 183,100 คน ต้องพลัดถิ่นฐาน ไม่มีที่อยู่อาศัย สำหรับยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในมาลาวีนับจนถึงวันศุกร์ อยู่ที่ 360 ราย
ประธานาธิบดีลาซารัส ชาเควรา ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นเวลา 3 วัน กล่าวว่า ทางการมาลาวีคาดหมายว่าภาพความเสียหายและจำนวนผู้เสียชีวิตจะเลวร้ายกว่านี้ หลังจากพื้นที่ต่างๆ สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น โครงการอาหารแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่ามาลาวีต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ขณะนี้หลายพื้นที่ยังเข้าไปไม่ได้ ทำให้การประเมินและการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเป็นไปได้ยากลำบาก
ประธานาธิบดีชาเควรา กล่าวว่า รัฐบาลระบุตัวเลขผู้ที่ต้องพลัดถิ่นฐานไว้ที่มากกว่า 183,000 ราย และเขาวิงวอนขอรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศเพื่อความจำเป็นทางมนุษยธรรม ขณะนี้มีการติดตั้งที่พักฉุกเฉินแล้วมากกว่า 300 แห่ง ในขณะที่ทหารและตำรวจยังคงค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย