รมว.คลัง  ตามติดวิกฤติ  2  แบงก์สหรัฐล้ม 

กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- รมว.คลัง ตามติดวิกฤติธนาคารในสหรัฐ หลัง ”SVB- Signature Bank” กระทบความเชื่อมั่นด้าน ‘จิตตะ เวลธ์’ มองกระทบต่อพอร์ตลงทุนธีมหุ้นสหรัฐ จำกัด เพราะกระจายลงทุนในหุ้นกว่า 700 ตัว 


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีที่ 2 ธนาคารสหรัฐ ได้แก่ Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank ถูกสั่งปิดว่า กระทรวงการคลัง ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเบื้องต้น ก็คาดว่าจะมีผลกระทบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของนักลงทุน และต้องรอฟังข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทำหน้าที่ติดตามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยที่ ผ่านมา ธปท. ยืนยันมาตลอดว่าเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินไทยมีความมั่นคงแข็งแรง ยังได้รับความน่าเชื่อถืออยู่เบื้องต้นทราบว่าสถาบันการเงินหรือกองทุนต่าง ๆ ของไทย เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ไม่ได้มีธุรกรรมกับ 2 ธนาคารดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และไม่ส่งผลกับระบบการเงินของไทย

ส่วนตลาดพันธบัตรในขณะนี้ มองว่าเป็นไปตามภาวะตลาด แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ 2 ธนาคาร มีผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้นักลงทุนตกใจ สะท้อนจากดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง และเมื่อกระทบกับความเชื่อมั่น ก็จะมีผลทำให้ต้นทุนในเรื่องของความเสี่ยงต่าง ๆ เพิ่มขึ้นด้วย นอกเหนือไปจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แล้ว ก็ยังมีประเด็นเรื่องเสถียรภาพและความมั่นคงของธนาคารในสหรัฐฯ อีกด้วย


“อย่าไปพูดว่าเราไม่กังวล แต่เป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนต้องตั้งทีมพิเศษเพื่อติดตามเรื่องนี้หรือไม่นั้นเชื่อมั่นว่า ธปท. ก็เพียงพออยู่แล้วเท่าที่ติดตามดูตอนนี้ เบื้องต้นกระทบแค่ตลาดหุ้นไทย แต่อยากให้ดูอย่างดาวน์โจนส์ หลังจากที่เฟด-ก.คลังสหรัฐ ประกาศเรื่องความชัดเจนของภาระต่าง ๆ  ดาวน์โจนส์ล่วงหน้าก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่เคสอย่างนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยวิกฤติฟองสบู่ของเรา เรื่องของสหรัฐเข้าใจว่าเป็นปัญหาเรื่องของการขาดสภาพคล่อง  หลักการของเขาก็จะคล้ายกับของเรา คือ ต้องไม่เป็นภาระประชาชน” นายอาคม กล่าว

ส่วนเรื่องการคุ้มครองเงินฝาก ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ไทยได้ทำเมื่อปี 2540 ซึ่งมีการคุ้มครองในระดับจำนวนหนึ่ง แต่ของไทยนั้นการคุ้มครองเมื่อถึงจุดหนึ่งที่หมดความจำเป็น ก็ปรับลดลงมาจนอยู่ในระดับปัจจุบัน  ส่วนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดูแลอัตราเงินเฟ้อของไทยนั้น ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณา โดยจะมีการรายงานข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบด้วย

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (บลจ.) กล่าวว่าว่า การปิด 2ธนาคารสหรัฐ ย่อมสร้างผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญเพราะภาคธนาคารมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นทางการสหรัฐฯ จึงต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยได้ออกมาตรการช่วยเหลือทันทีทำให้โอกาสการลุกลามของปัญหานี้อยู่ในวงจำกัด ต่างจากกรณีการล้มของ Lehman Brothers ในปี 2008  และมาตรการที่ออกมาอย่างรวดเร็วจะเข้ามาเสริมความเชื่อมั่นของลูกค้าว่าหากเกิดเหตุการณ์แบงก์ขาดสภาพคล่องไม่สามารถจ่ายคืนเงินฝากได้ กองทุนจะเข้ามาช่วยเหลือเพื่ออัดฉีดสภาพคล่อง เพื่อให้แบงก์ยังคงดำเนินการถอนคืนเงินฝากได้ตามปกติ ลดโอกาสเกิดปัญหา Bank Run ได้ 


ทั้งนี้ เฟดได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ออกมาตรการช่วยเหลือจัดตั้งกองทุนเพื่อดูแลสภาพคล่องของธนาคาร โดยกองทุนสามารถช่วยเหลือธนาคารที่มีปัญหาดังกล่าวในอนาคตได้  กองทุนพิเศษนี้จะช่วยให้ลูกค้าธนาคารได้รับเงินเงินฝากคืนได้ทั้งหมด ควบคุมผลกระทบในวงจำกัด ทำให้บริษัทที่ฝากเงินกับธนาคารเหล่านี้สามารถถอนเงินนำไปใช้ในการดำเนินกิจการปกติได้  นอกจากธุรกรรมเงินฝากแล้ว บริษัทที่มีธุรกรรมกับธนาคารในด้านอื่นๆ อาจจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น ซึ่งปัจจุบันทางการสหรัฐฯ กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อขายสินทรัพย์ของธนาคาร และเปิดโอกาสในการเข้าซื้อธนาคารจากทุนต่างชาติ เมื่อการดำเนินการของทางการสหรัฐฯ เสร็จสิ้น ธุรกรรมด้านอื่นๆ จะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตามในส่วนของ บลจ.จิตตะ เวลธ์  ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบกับพอร์ตการลงทุน Jitta Wealth อยู่บ้าง เช่น ธีมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่มั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนกว่า 700 บริษัท ส่วนนโยบายการลงทุนอื่นๆ อาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อมโดยเฉพาะบริษัทเทคที่มีเงินฝากและธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารที่มีปัญหา แต่ด้วยมาตรการช่วยเหลือจากทางการสหรัฐฯ เรามองว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน .–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี