กรุงเทพฯ 12 มี.ค.- ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ตรวจสอบเหตุวัว 3 ตัวในอำเภอรัตนบุรีถูกสัตว์อื่นกัดไส้แตกตาย ชี้ไม่ใช่หมาผีปอบรุมกิน แต่คาดเป็นฝูงหมาพันธุ์ผสมที่มีเจ้าของบริเวณใกล้เคียงรุมกัด เจ้าหน้าที่จะเร่งฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้หมาแมวและโคกระบือในพื้นที่ ส่วนตำรวจเร่งสืบสวนหาเจ้าของเพื่อให้รับผิดชอบตามกฎหมาย
นายสัตวแพทย์ประยูร พรมไธสง นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์กล่าวว่า มอบหมายให้นายสัตวแพทย์จรูญวิทย์ นะพรรัมย์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์และนางสาวจันทรา โพธิ์คำ ปศุสัตว์อำเภอรัตนบุรีเดินทางไปตรวจสอบข่าว “หมาผีปอบรุมกินไส้วัว” จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่า วัวที่ถูกสัตว์อื่นกัดจนตายเป็นของซึ่งนายใส มาลาวัลย์ เลขที่ 31 หมู่ที่ 3 บ้านช่อง ตำบลบ้านไผ่ อำเภอรัตนบุรี
ทั้งนี้นายใสเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโค มีโคทั้งหมด 17 ตัว ช่วงฤดูแล้งจะนำโคไปเลี้ยงไว้ที่ทุ่งนา โดยแยกเป็น 2 ฝูง ฝูงที่ 1 เป็นฝูงเดิม อยู่ในสวน ฝูงที่ 2 เป็นฝูงที่ซื้อมาใหม่ ผูกไว้กับหลักเลี้ยงไว้ในทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน ไม่ได้เฝ้าตลอดเวลาโดยจะมาดูแลเป็นครั้งคราวและไม่ได้ไล่ต้อนเข้าคอก เมื่อวันที่สุนัขมากัดโคในฝูงที่ 2
วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา นายใสพบสุนัขพันธุ์ผสม 3 ตัวกำลังรุมกัดกินซากโค 2 ตัว เมื่อสุนัขเห็นคน มันจึงวิ่งหนีไป ต่อมาในวันที่ 11 มีนาคม สุนัขกลับมากัดโคตายอีก 1 ตัว โดยนายใสได้ขับรถตามฝูงสุนัขไปทางบ้านนาอุดม จนกระทั่งเห็นมันวิ่งกลับบ้านจึงทราบว่า เป็นสุนัขมีเจ้าของและสันนิษฐานว่า ไม่ได้มีอาการเป็นโรคพิษสุนัขบ้า 3 ตัว นายใสได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งความต่อตำรวจสภ. รัตนบุรีแล้ว
ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์และปศุสัตว์อำเภอรัตนบุรีประสานผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนให้แจ้งเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เฝ้าระวังสุนัขฝูงดังกล่าว เพิ่มความเอาใจใส่โคกระบือของตนโดยปรับปรุงคอกสัตว์ให้มิดชิดเพื่อป้องกันสุนัข ไม่ปล่อยโคกระบือไว้ภายนอกคอกในเวลากลางคืน พร้อมกันนี้ทางสำนักงานปศุสัตว์จะร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไผ่อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัตว์ไว้ในสถานที่ดังกล่าวไปเลี้ยงยังคอกซึ่งมีความปลอดภัย และจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัข แมว และโคกระบือฝูงที่ถูกสุนัขกัดในพื้นที่ต่อไป
ที่สำคัญจะชี้แจงเหตุแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบและไม่สบายใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ไม่ใช่ “หมาผีปอบ” เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป
ส่วนคดีที่เจ้าของโคแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. รัตนบุรีนั้น พนักงานสอบสวนจะเร่งสืบหาเจ้าของเพื่อให้รับผิดชอบตามกฎหมาย
ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้เข้าตรวจสอบเหตุการณ์ โดยยืนยันว่า บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุไม่มีพื้นที่ป่าจึงเชื่อว่า สัตว์ที่มากัดโคของเกษตรกรไม่ใช่สัตว์ป่า
รศ.ดร.น.สพ. จิตรกมล ธนศักดิ์ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวถึงพฤติกรรมสุนัขว่า พฤติกรรมดุและก้าวร้าวเกิดได้จากทั้งลักษณะของสายพันธุ์และการเลี้ยง โดยสุนัขบางพันธุ์มีความก้าวร้าวและมีพละกำลังมากเป็นพื้นฐาน หากเลี้ยงดูถูกต้อง จะมีพฤติกรรมอ่อนโยน แต่ถ้าเลี้ยงดูไม่ถูกต้องอาจมีพฤติกรรมดุร้ายได้.-สำนักข่าวไทย