“พล.อ.เปรม” เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลฯ

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


วันนี้ เวลา 17.51 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ พระลานพระราชวังดุสิต


ในพิธีดังกล่าวมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเป็นประธานสงฆ์ นำสวดเจริญพระพุทธมนต์ มีข้าราชการ พลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชน ทั้งที่อยู่ ณ พระลานพระราชวังดุสิต และในต่างจังหวัด ร่วมสวดมนต์พร้อมกัน


ผู้ที่ร่วมสวดมนต์จะได้รับหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์ขึ้น ที่หน้าปกหนังสือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร และภาพวาดฝีพระหัตถ์ จัดพิมพ์ไว้ ทั้งทรงคัดเลือกและทรงเรียบเรียงบทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมคำแปล จำนวน 28 บท ซึ่งทรงน้อมนำและสืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนาถ ด้วยทรงปรารถนาที่จะให้ประชาชนได้สวดมนต์ เพื่อก่อให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา รวมทั้งความสุขสงบร่มเย็น และเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และชาติบ้านเมืองสืบไป

และก่อนหน้านี้ เวลา 17.28 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เชิญพระพุทธนรสีห์ จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปประดิษฐาน ณ พลับพลาพิธี พระลานพระราชวังดุสิต มีริ้วขบวนตามแบบโบราณราชประเพณีที่งดงาม

พระพุทธนรสีห์ เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชร ปางมารวิชัย ยุคเชียงแสน พุทธลักษณะงดงาม เดิมประดิษฐานในวิหารหลวงวัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเชิญไปตั้งบูชาในท้องพระโรงวังวรดิศ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทอดพระเนตร แล้วมีพระราชดำรัสว่า “พระองค์นี้งามมาก และแปลกจริงๆ” สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และเจ้านายฝ่ายเหนือ จึงพร้อมใจกันขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขนานพระนามถวายว่า “พระพุทธนรสีห์” ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง