นอร์เวย์ 22 พ.ค. – รมว.พลังงานเผยนอร์เวย์สนใจขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)ให้กับไทย ซึ่งไทยขอให้ปตท.มีส่วนร่วมในการลงทุนในแหล่งผลิตเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านLNGให้มากขึ้น
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการเดินทางไปประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่19 พ.ค.2560 ที่ผ่านมาว่า ได้หารือกับ Ms.Elisabeth Berge ปลัดกระทรวงปิโตรเลียมและพลังงานของนอร์เวย์ และพบว่า ทางนอร์เวย์ ซึ่งมีการค้นพบปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติในประเทศจำนวนมากและมีการส่งออกในรูปของก๊าซธรรมชาติเหลวหรือLNG โดยเพราะส่งขายให้ประเทศยุโรปเป็นหลัก ได้แสดงความสนใจที่จะขายLNG ให้กับประเทศไทย
ขณะที่ประเทศไทยเองที่มีความจำเป็นจะต้องนำเข้าLNG มากขึ้นในอนาคตเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่จะลดปริมาณลง ดังนั้นจึงพร้อมที่จะให้มีการเริ่มต้นเจรจา แต่ต้องพิจารณาดูทั้งเรื่องของราคา การขนส่ง รวมทั้งเงื่อนไขที่จะให้ ปตท.เข้าไปร่วมถือหุ้นในแหล่งผลิต เนื่องจากปตท.ควรจะต้องมีองค์ความรุ้ที่ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การค้า LNG ด้วย จากเดิมที่เป็นแต่เพียงเฉพาะผู้ซื้อเท่านั้น
โดยกระทรวงพลังงานของไทยและทางสถานฑูตนอร์เวย์ จะจัดเวทีให้ทางผู้ผลิตLNGของนอร์เวย์ ได้มาแสดงศักยภาพด้านการผลิตและการค้าLNG โดยเฉพาะในวันที่26มิ.ย.นี้ ที่กระทรวงพลังงาน
ด้านนายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะรองโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้ไฟฟ้าของนอร์เวย์ กว่าร้อยละ 90 เป็นการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ในขณะที่นอร์เวย์มีการค้นพบปริมาณสำรองทั้งน้ำมันและก๊าซจำนวนมาก ทำให้นอร์เวย์กลายเป็นประเทศนอกกลุ่มโอเปก ที่มีการส่งออกน้ำมันดิบ มากเป็นอันดับสองของโลก รองจากรัสเซีย เพราะความต้องการใช้ในประเทศมีไม่มาก โดยผลิตน้ำมันดิบได้มากถึงวันละเกือบ2ล้านบาร์เรล ในขณะที่ก๊าซธรรมชาติที่ค้นพบมีการส่งออกทางท่อส่งก๊าซไปขายให้กับประเทศในกลุ่มยุโรป กว่า25% ของความต้องการใช้ ส่วนประเทศที่อยู่ไกลออกไป ก็ส่งออกในรูปของก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG
ทั้งนี้เมื่อวันที่8ธ.ค.2559 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้มีการทบทวนและปรับประมาณการความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติตามแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2558 – 2579 (Gas Plan 2015) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการใช้ในประเทศ โดยคาดว่า ในปี 2579 ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติจะอยู่ที่ระดับ 5,062 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณการไว้ตามแผน PDP 2015 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 4,344 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในขณะที่การจัดหาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยจะมีปริมาณลดลงในอนาคต ส่งผลทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า ในปี 2565 ความต้องการการนำเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 17.4 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมอยู่ที่ 13.5 ล้านตันต่อปี ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 และในช่วงปลายแผน คือ ในปี 2579 ความต้องการการนำเข้า LNG จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 34 ล้านตันต่อปี จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 31 ล้านตันต่อปี ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปรับแผนโครงสร้างพื้นฐานและการจัดหา LNG ในระยะยาวของประเทศ ให้สอดคล้องและสามารถรองรับความต้องการใช้และการจัดหาที่เพิ่มมากขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ – สำนักข่าวไทย