เชียงใหม่ 17 ก.พ. – กรมฝนหลวงและการบินเกษตรส่งเฮลิคอปเตอร์ทิ้งน้ำดับไฟป่าจ.เชียงใหม่เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เสริมการปฏิบัติการฝนหลวงที่ทำต่อเนื่อง ตลอดจนปฏิบัติการทำฝนหลวงเมฆเย็นเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนสภาพอากาศแปรปรวน
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเปิดเผยว่า สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือนำเฮลิคอปเตอร์ตักน้ำดับไฟป่าเนื่องจากเกิดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานเนื่องจากเกิดไฟป่าต่อเนื่องหลายวัน จนหลายพื้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ถึงระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง)
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามบินกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ปฏิบัติภารกิจทำฝนเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ บรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แม่ฮ่องสอน และตาก โดยเน้นการปฏิบัติการทำฝนให้อยู่เฉพาะพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่เสี่ยงเกิดผลกระทบต่อกิจกรรมด้านการเกษตร และจุดเฝ้าระวังทั้ง 6 ดอยเช่น พื้นที่ป่าดอยสุเทพถึงดอยปุย ดอยหลวงเชียงดาว เขาพระบาท ดอยพระบาท รวมถึงพื้นที่ป่าไม้บริเวณ อ.ฮอดถึง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และ อ.สามเงา จ.ตาก เป็นต้น นอกจากนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดตั้ง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ และ จ.พิษณุโลก
ล่าสุดได้ใช้เฮลิคอปเตอร์แบบ Bell 407 จำนวน 1 ลำขึ้นปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าบริเวณพื้นที่ อ.ฮอด และ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยใช้แหล่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำศาลาฮ่อ และอ่างเก็บน้ำบ้านโป่งเสริมการปฏิบัติการฝนหลวง
ส่วนสถานการณ์พายุลูกเห็บจากสภาพอากาศแปรปรวนตามการแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยานั้น ได้สั่งการให้ปฏิบัติการฝนหลวงเมฆเย็นเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ โดยใช้เครื่องบินเกษตร ชนิด Super King Air 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการ โดยนักวิชาการจะติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และวางแผนบินปฏิบัติการฝนหลวงเมฆเย็นเพื่อลดความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่ที่เสี่ยงเกิดความเสียหายต่อประชาชนรวมถึงผลผลิตทางการเกษตรในทันที .-สำนักข่าวไทย