รัฐสภา 15ก.พ.-กมธ.ติดตามงบฯ พบพิรุธ เอกชนที่ประมูลโครงการซื้อเครื่องบินพันกว่าล้านของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พาขรก.ไปดูงานที่เชคฯ โดยลางานไปก่อนได้ประมูล ชง ป.ป.ช.สอบต่อ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้ติดตามงบประมาณของกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยในส่วนของกรมการข้าวได้พิจารณาในส่วนของการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งอธิบดีได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า เป็นส่วนของการใช้งบประมาณซื้อปุ๋ยที่เข้าบัญชีนวัตกรรมภาครัฐ หรือ BCG และส่วนที่เกี่ยวข้องกับเมล็ดพันธุ์ข้าวตรงไปยังศูนย์ข้าว 200 กว่าศูนย์ งบประมาณรวม 829 ล้านบาท โดยเมื่อโอนเงินไปยังบัญชี ธกส. ของศูนย์ข้าวต่างๆ แต่ละศูนย์ข้าวจะไปซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรกันเอง ซึ่งพบว่าเครื่องไม้เครื่องมือไม่ได้อยู่ภายใต้ระเบียบวัสดุการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐจะทำให้มีข้อห่วงใย ซึ่งบางที ผอ.ที่ดูแลส่วนต่างๆ อาจจะมีความใกล้ชิดกับผู้ที่ซื้อขายของกับสินค้าในแต่ละพื้นที่ และอาจจะไม่ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างโดยตรง
จึงมีข้อห่วงใยว่าอาจจะมีช่องโหว่ที่หน่วยงานต่างๆ กมธ.จึงมีมติส่งข้อสังเกตไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมบัญชีกลาง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทรวงได้พิจารณาว่ามีช่องทางใดที่จะสามารถออกระเบียบในการกำกับดูแลการใช้เงินอุดหนุนของศูนย์ข้าวชุมชนหลังจากนี้ต่อไปได้บ้าง โดยมีกรณีเทียบเคียง การใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกต งบกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่พบว่าในการประมูลโครงการซื้อเครื่องบิน 2 ลำ มูลค่า 11,88 ล้านบาท มีการเปิดประมูล 3 ครั้ง ไม่มีผู้เข้ายื่นซองประมูล และเมื่อมีผู้เข้าประมูล พบสิ่งที่น่าห่วงใย คือบริษัทเอกชนที่ถูกประกาศให้เป็นผู้ชนะการประมูลในโครงการซื้อเครื่องบิน 2 ลำดังกล่าว เคยพาผู้บริหารกรมฝนหลวงไปดูงานที่สาธารณรัฐเชค และได้รับคำชี้แจงในที่ประชุมว่า งบประมาณที่ไปศึกษาดูงานเป็นส่วนที่บริษัทเอกชนออกให้ โดยที่ข้าราชการที่เดินทางไปศึกษาดูงานใช้สิทธิ์วันลาราชการ ดังนั้นเป็นสิ่งที่คณะกรรมาธิการมีข้อสังเกต ซึ่งตามคำชี้แจงก็รับฟังน้ำหนักของเหตุผลทั้ง 2 ข้าง โดยทางอธิบดี ชี้แจงว่าก่อนจะอนุมัติการจัดซื้อเครื่องบินพันกว่าล้านบาทก็อยากจะไปดูในสถานที่จริง และของจริง แต่ได้สอบถามไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ว่าลักษณะเช่นนี้จะเป็นเรื่องขัดกันกับผลประโยชน์หรือไม่ เพราะใช้งบของเอกชนในการศึกษาดูงานในครั้งนี้ พร้อมส่งเรื่องไปให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป
ส่วนกรณีกรมการข้าวนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ พบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว จึงมีมติว่ารอให้คณะกรรมการทำงานเสร็จและในวันที่ 14 มีนาคม จะเรียกกรมการข้าวมาชี้แจงข้อมูลต่อไป ส่วนกรมฝนหลวงวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นกรณีที่จะเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการงบประมาณฯ ก็จะได้ติดตามกันต่อไป ส่วนเรื่องของการตบทรัพย์ เห็นว่าได้ใช้พื้นที่ของสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตามหน้าสื่อหลายๆ ครั้งแล้ว วันนี้สาระหลักในการประชุมต้องการโฟกัสไปที่เนื้อหาการใช้งบประมาณ ว่า หากดำเนินการอย่างโปร่งใสเรื่องของการตกทรัพย์ก็ไม่ต้องกังวล.-312.-สำนักข่าวไทย