ลพบุรี 14 ก.พ. – เรื่องหวานฉาววงการสงฆ์ รับวันแห่งความรัก หลังปรากฏภาพคู่รักพระสงฆ์เผยแพร่ว่อนเน็ต ชาวบ้านบอกสุดท้ายกลายเป็นเรื่องรักร้าว เราสามคน
จากกรณีเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว2” โพสต์ภาพคู่ของคู่รักชาย-ชาย มนต์รักปาท่องโก๋ ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์กำลังเซลฟี่ตัวเองขณะนอนกอดอยู่กับชายหนุ่มอีกรายที่ไม่สวมเสื้อ และตัดผมลักษณะเหมือนพระสงฆ์เช่นกัน โดยมีการเอาหน้าซุกกัน หอมแก้มกัน เหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน โชว์ความหวานชนิดขัดใจชาวพุทธก่อนถึงวันวาเลนไทน์ รวมถึงยังมีภาพที่ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์รายนี้สลัดผ้าเหลืองมาแต่งชุดไพรเวทยืนยิ้มควงสะโพกริมทะเล
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดเขาวงพระจันทร์ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว กับพระมหาธวัชชัย สิริธโช เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ ต่อหน้าเจ้าคณะจังหวัดลพบุรีและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ โดยพระมหาธวัชชัย กล่าวว่า ภาพในโซเชียล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานที่ และไม่ได้เป็นพระของวัด แต่พระรูปนี้ได้มาช่วยงานประเพณีขึ้นเขาวงพระจันทร์ เมื่อช่วง 22 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ โดยพระองค์ดังกล่าวได้ลงชื่อ และระบุวัดอยู่ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ
โดยพระรูปดังกล่าว เคยมาช่วยงานวัดเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าเจตนาดี ก็ให้พักอยู่ที่บริเวณวัดรวมกับพระวัดอื่นๆ โดยไม่ทราบว่าต้นสายปลายเหตุเป็นมาเช่นไร ทางวัดเขาวงพระจันทร์ ยืนยันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ กล่าวว่าพระรูปดังกล่าว เคยมาบวชที่นี่แต่สึกไปนานแล้ว ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด และไม่ทราบว่าไปทำเรื่องอื้อฉาวในพื้นใดเช่นกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสระพรานจันทร์ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง ลพบุรี หลังจากทราบว่าพระรูปที่เป็นข่าว เคยจำวัดอยู่ที่นี่ มีชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า พระรูปดังกล่าวเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลห้วยโป่งเขต 1 เจ้าอาวาสวัดสระพรานจันทร์ ลพบุรี เป็นเจ้าอาวาสวัดตั้งแต่ปี 64 ปีแรกๆ ก็ปฏิบัติตามกิจของสงฆ์เป็นปกติ อยู่ได้สักพัก ก็ได้ปลูกกุฏิที่คล้ายกับรีสอร์ตภายในวัด ท่ามกลางเสียงคัดค้านของชาวบ้าน ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าวทาสีฟ้า ใช้งบไป 4 แสนบาท ติดแอร์ 2 ตัว มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน จากนั้นมีพระอีกรูปอายุประมาณ 50 ปีเศษ มีรถหรูมาอยู่ด้วย โดยเจ้าอาวาสเรียกว่าป๊า (พ่อ) อยู่ได้ประมาณ 2 พรรษาก็ออกจากวัดไป
สอบถาม ลุงจำเนียร เล่าว่าตั้งแต่เจ้าอาวาส และพระที่มาอยู่ด้วย ทั้งคู่ไม่เคยปฏิบัติกิจของสงฆ์ ไม่เคยออกบิณฑบาต ตื่นสาย มีหมามาเลี้ยง 3 ตัว วันๆ ขลุกอยู่แต่ในห้อง แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง มีผู้นำท้องถิ่นไปตักเตือนกลับถูกข่มขู่ และมีเรื่องบาดหมางกับชาวบ้านอยู่เรื่อยมา เป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน และหลังจากพระอายุมากที่มาอยู่ด้วยได้ออกจากวัดไป ก็มีสามเณรชื่อบาส มาอยู่ด้วย ครั้งนี้ชาวบ้านเริ่มเห็นพฤติกรรม ของเจ้าอาวาสกับเณรบาสที่มักแสดงบทรักและความหึงหวงซึ่งกันและกัน
ด้าน นายสมศักดิ์ ชาวบ้านอีกคนเล่าว่าหลังจากนั้นพระอายุมาก ที่เรียกป๊าได้มาที่วัดอีกครั้ง ขับรถหรูพร้อมรถอีกคันที่มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งนั่งมาด้วย ขับรถไล่ชนสามเณรบาส และขู่อาฆาต จนทั้งคู่อยู่วัดไม่ได้ แอบหนีไปสึกที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านหมี่ แต่ไม่ได้กล่าวคำสึก เพียงแต่เปลี่ยนจีวรเป็นชุดขาวแบบฆราวาส รวมระยะเวลา 1 ปี 10 เดือน โดยทางชาวบ้านได้เปลี่ยนสีของกุฏิจากสีฟ้ามาเป็นสีเหลือง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบในกุฏิ พบชุดเสื้อผ้า ชุดชั้นในหวานแหวว รองเท้า อวัยวะเพศชายปลอม รวมทั้งภาพ ที่เจ้าอาวาสได้บันทึกไว้ เป็นภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยง กับพระด้วยกัน รวมถึงภาพที่สลัดผ้าเหลืองจากวัดไปเที่ยวชายทะเลกับคู่ขา
จากนั้นมีผู้พบเห็นเจ้าอาวาสเข้ามาป้วนเปี้ยนภายในวัด จนมาทราบอีกครั้งว่าแต่งกายเป็นพระมาช่วยงานวัดเขาวงพระจันทร์ ซึ่งไม่รู้ว่าขณะนี้เขาเป็นพระจริงหรือพระปลอม ขณะที่ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ได้กำชับทุกวัดในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี ห้ามรับไว้หรือผู้ใดพบเห็นให้แจ้งสำนักพุทธฯ หรือตำรวจพื้นที่. -สำนักข่าวไทย