DSI ส่งสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา 20 ราย ปลอมเอกสารหลอกขอสินเชื่อจากแบงก์

ดีเอสไอ 10 ก.พ. – กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา 20 ราย ปลอมเอกสารหลอกขอสินเชื่อจากธนาคาร 826 ล้านบาท


กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในคดีพิเศษที่ 18/2563 กรณีกลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ร่วมกันวางแผนให้นิติบุคคล จำนวน 13 ราย หลอกลวงขอเบิกใช้เงินสินเชื่อจากธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (ชื่อในขณะเกิดเหตุ) แล้วให้ธนาคารโอนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ไปยังบัญชีธนาคารปลายทางที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐสิงคโปร์ รวม 144 ครั้ง จำนวนเงินประมาณ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 826 ล้านบาท
จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำ ติดต่อเจรจาขอวงเงินสินเชื่อและเบิกใช้สินเชื่อประเภทเพื่อการซื้อขายสินค้า ที่อ้างว่าจะนำไปชำระค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายที่ต่างประเทศ โดยพบการนำเอกสารปลอมและเอกสารเท็จมาแสดงต่อธนาคาร และยังได้จัดทำงบการเงินเท็จและตกแต่งงบการเงินให้ดูมีฐานะทางการเงินที่ดีเพื่อหลอกลวงธนาคาร จนเป็นเหตุให้ธนาคารหลงเชื่อว่ามีการซื้อขายสินค้ากันจริง จึงได้โอนเงินไปต่างประเทศที่เข้าใจว่าเป็นการชำระค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายตามที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วในช่วงเวลาเกิดเหตุนิติบุคคลดังกล่าวไม่ได้ประกอบกิจการ ไม่มีการซื้อขายสินค้ากันจริง จึงไม่มีมูลหนี้ให้ต้องโอนเงินไปชำระค่าสินค้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา จำนวน 20 ราย ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม นำปัจจัยชำระเงินต่างประเทศโดยได้รับอนุญาตไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือผิดเงื่อนไขในการได้ไปซึ่งปัจจัยชำระเงินต่างประเทศนั้น และลักลอบส่งเงินตราต่างประเทศ อันเป็นของต้องจำกัดออกไปนอกราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อจำกัด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน และกฎหมายศุลกากร โดยศาลได้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหาที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 14 ราย คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ส่งสำนวนคดีพิเศษดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง