ชื่นชมฮีโร่ชุดนักเรียน ช่วยผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

ฉะเชิงเทรา 10 ก.พ. – โซเชียลแห่ชื่นชม “ฮีโร่ชุดนักเรียน” น.ส.สุชานันท์ อินทปัญญา หรือ น้องมิ้นท์ วัย 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดัดดรุณี จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนกัน


โซเชียลชื่นชมนักเรียนหญิงช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้หญิงที่ขี่รถจักรยานยนต์ มีแผลถลอกตามร่างกาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม ใกล้เคียงสี่แยกดอนสีนนท์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยเพจท็อปเรารักแปดริ้ว นำภาพนักเรียนหญิงที่ยังใส่ชุดนักเรียนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมข้อความว่า “#ฮีโร่ที่แปดริ้วใส่ชุดนักเรียน!! ขอชื่นชมน้องมิ้นท์ น.ส.สุชานันท์ อินทปัญญา นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดัดดรุณี ฉะเชิงเทรา ที่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 ก.พ. เธอกำลังจะเดินทางมาโรงเรียนตามปกติ อยู่ๆ มีอุบัติเหตุรถชน ระหว่างรถจักรยานยนต์กับรถเก๋ง ซึ่งน้องมิ้นท์ตัดสินใจโทรเรียกรถพยาบาลและช่วยปฐมพยาบาล จนรถพยาบาลมารับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล


ทั้งนี้ น้องมิ้นท์มีใจรักในการช่วยเหลือผู้อื่น จึงสมัครเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบ้านโพธิ์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะสอบเข้าศึกษาต่อคณะพยาบาลศาสตร์

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดัดดรุณี อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อพบกับน้องมิ้นท์ หรือ น.ส.สุชานันท์ อินทปัญญา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนางปนัดดา มักสัมพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดัดดรุณี เรียกไปพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากโลกโซเชียลกำลังชื่นชมความเสียสละและความเป็นจิตอาสาของน้องมิ้นท์

น้องมิ้นท์ เล่าว่า เมื่อเห็นอุบัติเหตุอยู่ตรงหน้าต้องเร่งช่วยเหลือ คนเจ็บอาการไม่หนักมากจึงพอจะช่วยได้ เพิ่งจะมารู้ว่ามีคนถ่ายรูปและนำไปโพสต์แสดงความชื่นชม ตนเองรู้สึกดีใจมากที่มีคนชื่นชม หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ตนเองต้องเข้าไปช่วยเหลืออีกแน่นอน เพราะในเทอมหน้าตั้งใจจะสอบเข้าศึกษาต่อในคณะพยาบาล เพื่อนำความรู้มาช่วยเหลือคนอื่น


ขณที่ผู้อำนวยการโรงเรียนดัดดรุณี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของโรงเรียนรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่นักเรียนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนและชุมชน ซึ่งโรงเรียนได้ปลูกจิตสำนึกในเรื่องการมีคุณธรรม จริยธรรม และการมีจิตอาสาให้กับนักเรียนมาโดยตลอด ซึ่งวันนี้จะแสดงความยินดีและประชาสัมพันธ์ชื่นชมน้องมิ้นท์ บริเวณหน้าเสาธงช่วงเข้าแถวเคารพธงชาติ พร้อมมอบเกียรติบัตรชื่นชม เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนของโรงเรียนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”