กทม.18 พ.ค.-นักวิจัยวัคซีนไทย เปิดเผยความสำเร็จการพัฒนาวัคซีน ในโอกาสวันวัคซีนเอชไอวีสากล ที่ผ่านมา20 ปีมีความก้าวหน้ามากและไม่ต้องรออีก20 ปีที่ประชากรโลกจะได้ใช้วัคซีนเอชไอวีที่นักวิจัยไทยประชาชนไทยและผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดความสำเร็จนี้
พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม ศูนย์วัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า 18 พฤษภาคมของทุกปีถูกกำหนดเป็นวันวัคซีนเอชไอวีสากลเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับวัคซีนเอชไอวี ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญยุติการแพร่ระบาดของการติดเชื้อเอดส์ ไทยเป็นประเทศสำคัญที่ทำโครงการวิจัยวัคซีนเอดส์มาตั้งแต่ปี 2536 ชื่อวัคซีน rgp120 ทดลองในผู้ติดยาเสพติดที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี โดยความร่วมมือของ กทม.คณะวิทยาศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กระทรวงสาธารณสุขและ ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา
ต่อมาปรับแนวคิดใหม่ทดสอบใช้วัคซีนแบบปูพื้น- กระตุ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ชาวไทย หรือเรียกว่า การฉีดวัคซีนปูพื้น-กระตุ้นผลการทดสอบระยะที่ 1 และ 2 ในปี2542-2545 พบวัคซีนปลอดภัยสามารถกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันทางน้ำเลือดและในเซลล์ได้ นำสู่การวิจัยในมนุษย์ระยะที่ 3 พ.ศ.2546 หรือที่เรียกอาร์วี 144 ทดสอบในกลุ่มผู้ใหญ่ จ.ชลบุรี ระยอง ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี กว่า 16,000 คน โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร และสถาบันวิจัยสุขภาพสหรัฐอเมริกา
ผลวิเคราะห์ ปี 2552 สรุปว่าวัคซีนมีประสิทธิผล สามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ 31.2เปอร์เซ็นต์ มีภูมิคุ้มกันระยะเวลาประมาณ 3 ปี นับ เป็นก้าวสำคัญยิ่งของการพัฒนาวัคซีนเอดส์ เพราะเป็นครั้งแรกของโลก ที่พบว่าวัคซีนเอดส์มีประสิทธิผลในการป้องกัน ต่อมาวัคซีนนี้ได้ถูกพัฒนาเป็นวัคซีนสายพันธุ์ C โดยใส่สารเสริมฤทธิเรียกว่า เอ็มเอฟ 59 ซึ่งขณะนี้กำลังทดสอบหาประสิทธิผลในประเทศแอฟริกา คาดจะทราบผลอีก 2 ปีข้างหน้า
พัฒนาการของวัคซีนในปัจจุบันมีการศึกษาประสิทธิภาพให้กว้างขวางออกไปอีก ซึ่งขณะนี้คณะเวชศาสตร์เขตร้อนและสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารกำลังศึกษาอุบัติการ การติดเชื้อในกลุ่มชายรักชายโดยหวังจะมีกันศึกษาหาประสิทธิผลของวัคซีนปูพื้นAD2 6 ซึ่งกระตุ้นด้วยโปรตีนGp140ซึ่งเป็น สายของโปรตีนที่ยาวขึ้นเพื่อประสิทธิผลในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ยาวนานมากขึ้นนั่นเอง เนื่องจากวัคซีนเอชไอวีนักวิจัยจะต้องพัฒนาให้มีวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะสามารถนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ในราคาที่เหมาะสมกับประชากรกลุ่มใหญ่และกลุ่มเสียงได้ครอบคลุม
งานวิจัยวัคซีนเอชไอวีของไทยแสดงให้โลกเห็นถึงความมุมานะและพัฒนาวัคซีนตลอด 20 ปีที่ผ่านมาซึ่งวัทีมนักวิจัยของคณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล ประชากรไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกคนหวังว่าในวันครบรอบ 20 ปีของวัคซีนเอชไอวีสากลนี้ชาวโลกคงไม่ต้องรอไปอีก 20 ปีเพื่อได้รอฟังข่าวดี ๆ เกี่ยวกับวัคซีนเอชไอวีหวังว่าความสำเร็จครั้งต่อไปคงมาถึงในระยะเวลาอันใกล้.-สำนักข่าวไทย