นนทบุรี 6 ก.พ.-สนค.เผยเงินเฟ้อ ม.ค. เหลือ 5.02 ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังราคาพลังงานชะลอตัว และการปรับตัวดีขึ้นของการท่องเที่ยว
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือนมกราคม เท่ากับ 108.18 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเท่ากับ 103.01 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้นร้อยละ 5.02 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอตัวจากเดือนธันวาคม 2565 ที่สูงขึ้นร้อยละ 5.89 อยู่ระดับตำ่สุดในรอบ 9 เดือน ตามการชะลอตัวของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานและอาหาร ขณะที่อุปสงค์ในประปรับตัวดีขึ้นจากภาคท่องเที่ยว เทศกาลปีใหม่ และตรึษจีน ส่งผลให้การใช้จ่ายคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อต่างประเทศ(ล่าสุด ธ.ค.65) พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายเขตเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี และเม็กซีโก รวมถึงประเทศในอาเซียน ลาว ฟิลิปินส? และสิงคโปร์ โดยเงินเฟ้อไทยต่ำเป็นอันดับที่ 32 จาก 129 เขตเศรษฐกิจที่มีการประกาศตัวเลข
อัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้ สูงขึ้นร้อยละ 5.02(YoY) เป็นการสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวของสินค้าในหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 3.18(YoY) (ธ.ค.65 สูงขึ้นร้อยละ 3.87) ตามราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทุกประเภท ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม รวมทั้งค่าโดยสารสาธารณะ นอกจากนี้วัสดุก่อสร้าง ค่าแรงช่างทค่าใช้จ่ายบุคคล สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความสะอาด ราคาสูงขึ้น สำหรับสินค้าที่ลดลง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อกางเกง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
หมวดอาหารแชะเครื่องดื่มไม่มีแอบกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 7.70 (YoY) (ธ.ค.65 สูงขึ้นร้อยละ 8.87) โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ผักและผลไม้บางชนิด ข้าวสารและไข่ไก่ สาเหตุเพราะต้นทุนที่อยู่ระดับสูง และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว ตามสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ประบตัวดีขึ้นตามลำดับ สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง ประกอบด้วยเนื้อหมู ผักสดและผลไม้บางชนิด เช่น ขิง ถั่วฝักยาว พริกสด
ขณะที่ เงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออนสูงขึ้นร้อยละ 3.04 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ชะลอคัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่สูงขึ้นร้อยละื3.23 ตามต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนนี้เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าสูงขึ้นร้อยละ 0.30 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ตามการสูงขึ้นของสินค้าในหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 0.41 สาเหตุตากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าโดยสารสาธารณะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง เช่น สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาด เสื้อผ้า ตู้เย็น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า และหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้ยร้อยละ 0.13 เช่นผลไม้ (ส้มเขียวหวาน องุ่น มะม่วง) และไจ่ไก่ สำหรับสินค้าที่ราคาลดลง เช่น ผักบุ้ง ผักชี ค้นหอม เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยทำให้ผลผลิตกลับสู่ภาวะปกติ
แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลงปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อขยายตัวยังคงเป็นราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมค่อเงินเฟ้อและราคาสินค้าในกลุ่มอาหารที่ประบตัวสูงขึ้น ตามต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง และค่าจ้างแรงงาน ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐอย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งจะทำให้ความต้องการบริโภคโดยรวมและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงชะลอตัว และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าสินค้าของไทยลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้อัตาเงินเฟ้อของไทยไม่สูงมากนัก
โดยคาดว่าเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ จะไม่ถึง 5 กรณีหากไม่มีปัจจัยใดๆมากระทบ ซึ่งตัวเลขจะลดลงอย่างต่อเนื่องและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 จะอยู่ระหว่าง 2.0-3.0 ซึ่งเป็นอัตราที่วอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมเดือนมกราคม 2566 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.3 จากระดับ 50.4 ในเดือนก่อนหน้าอยู่ในช่วงความเชื่อมั่นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองและอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 44 เดือนเป็นการปรับเพิ่มขึ้นทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคตโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสามเดือนข้างหน้าอยู่ในระดับที่มีความเชื่อมั่นคือสูงกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 สาเหตุจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวประกอบกับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐขณะที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำมันเชื้อเพลิงชะลอตัวลงจะเป็นปัจจัยสำคัญให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป.-สำนักข่าวไทย