นายกฯ ถกแผนกระตุ้นท่องเที่ยวปี 68 กระจายเม็ดเงินทุกพื้นที่

ทำเนียบ 18 ก.ย.- นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ ททท. หารือแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 68 ย้ำเม็ดเงินต้องกระจายลงทุกพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ ททท. เตรียมเสนอแผนท่องเที่ยว 1-2 สัปดาห์นี้ พร้อมหนุนหากต้องนำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง มาปรับกระตุ้นการท่องเที่ยว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันนี้ (18 ก.ย.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเรียกนางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าหารือแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทย

โดยนางฐาปนีย์ เปิดเผยภายหลังพบนายกรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว พร้อมหารือถึงการเตรียมความพร้อม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในปีหน้า โดย ททท. จะนำเรื่องนี้เสนอ นายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานรับทราบแผนงานนี้และติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วยตนเอง ทั้งนี้ ททท.จะมีการจัดทำภาพรวมการท่องเที่ยวในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจัดอีเวนท์หรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว ว่าสิ่งใดที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการเพิ่มเติม นอกเหนือจากวีซ่าฟรีที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จ่ายเงิน Cashless Society หรือ สังคมไร้เงินสด ซึ่งจะหยิบยกขึ้นมาดู เพราะถือว่าเป็นธุรกิจของทุกชาติ ที่ต้องการเข้ามีระบบจ่ายเงิน ที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศต้นทางได้ ซึ่งในประเด็นนี้นายกรัฐมนตรีรับปากจะไปพิจารณาให้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงปลายปีโดยจะต้องเป็นการกระตุ้นแบบลงทุกพื้นที่ และมองว่าภาพรวมการ ท่องเที่ยวของประเทศไทยจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวสามารถมีดัชนีชี้วัด ไม่ว่าจะเป็น การจัดอันดับต่างๆที่ต่างชาติดำเนินการจัดอันดับ เป็นดัชนีความนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว


สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการคนละครึ่ง จะนำมา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือไม่นั้น ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวว่า ดูจาก การมอบนโยบายของนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า โครงการด้านใดที่ดี และตอบโจทย์ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว ก็ต้องมาดูในรายละเอียดเพื่อดำเนินโครงการ ให้ครอบคลุมต่อไป ซึ่งนายสรวงศ์ ไม่ได้ปิดโอกาสในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เคยมีมาแล้ว

ส่วนโจทย์ใหญ่ที่นายกรัฐมนตรี ไปแก้ไขในเรื่องการท่องเที่ยวเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวว่า เป็นเรื่องเป้าหมายที่รัฐบาลเคยตั้งไว้ ทั้งรายได้ จำนวนนักท่องเที่ยว ต้องพยายามทำให้ได้ ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นก็ต้องลุ้นจำนวนตัวเลขอีกที แต่ด้วยสถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ อุทกภัย ไม่ได้เกิดในประเทศ ไทยเพียงประเทศเดียวแต่ยังเกิดในทั่วโลก ดังนั้นจะต้องนำมาพิจารณาความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่นปัจจัยหนึ่งที่เกิดจากธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้ แต่อาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก

นางนางฐาปนีย์ ยังกล่าวว่า ขณะที่การเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสายการบินที่เป็นปฐมฤกษ์บินเข้ามายังไทย จากข้อมูลพบว่าในเดือนตุลาคมนี้ มีเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการสนับสนุนทำให้นักท่องเที่ยวจากใหม่ๆ เดินทางเข้ามา โดยเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยว น่าจะเพิ่มขึ้นได้ แต่ในเรื่องของรายได้ต้องเข้าแซงตอนนี้จาก สถานการณ์ในปัจจุบันเดินทางเข้า แม้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก แต่ การใช้จ่ายเงินก็มีการรัดเข็มขัดมากขึ้นในหลายประเทศ ประกอบกับเรื่องเศรษฐกิจในประเทศต้นทาง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เงินค่อนข้างรัดกุมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยใกล้ 25 ล้านคนแล้ว ดังนั้นเหลือเวลาอีก3 เดือนครึ่ง ซึ่งอยู่ในช่วงไฮซีซั่น ก็อยากให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้า 30-35 ล้านคน โดยกลุ่มตลาดการท่องเที่ยวหลัก ที่มุ่งเน้นอยู่ คือ ตลาดจีน อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย รัสเซีย ก็ยังเป็นตลาดหลักที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นกลุ่มดาวฤกษ์เข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มตลาดดาวรุ่ง หรือกลุ่มตลาด นักท่องเที่ยวใหม่ จำเป็นต้องเพิ่มการตลาดมากขึ้น ก็ได้รับอานิสงส์ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาด CIS ประกอบด้วยคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ถือเป็นกลุ่มตลาดที่เติบโตสูงมาก


นอกจากนี้ยังมีท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบีย ก็เติบโตสูงเช่นกันหรือในกลุ่มอาเซียนอย่าง ลาว เวียดนามก็มีอัตราส่วนที่เติบโตมากขึ้นตามลำดับ และกลุ่มยุโรป อเมริกา ฝรั่งเศสเยอรมัน อังกฤษ ก็ยังเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน

ส่วนนโยบายการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ นางฐาปนีย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ในเรื่องนี้ .-316 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย