ค้าปลีกประเมิน “ช้อปดีมีคืน” ช่วยยอดขายไม่เกิน 10%

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – ธปท. สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สำรวจดัชนีเชื่อมั่นค้าปลีก (RSI) เดือน ม.ค.66 ปรับลดลง จากกำลังซื้อยังอ่อนแอ-ต้นทุนธุรกิจเพิ่มต่อเนื่อง ประเมิน “ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นยอดขายไม่เกิน 10% ขณะที่ท่องเที่ยวทยอยฟื้นหนุนความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มเล็กน้อย


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (Retailer Sentiment Index : RSI) เดือน ม.ค. 2566 โดยพบว่าความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกเดือนมกราคม ปรับลดลงจากเดือนก่อน ทั้งความเชื่อมั่นต่อยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยอดใช้จ่ายต่อครั้ง (Spending per bill) และความถี่ของผู้ใช้บริการ (Frequency) แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากภาครัฐ อย่างโครงการช้อปดีมีคืน แต่ก็ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในวงจำกัด ประเมินว่ามาตรการช้อปดีมีคืน จะมีส่วนช่วยยอดขายได้ไม่เกินร้อยละ 10 ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอและต้นทุนธุรกิจที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องยังกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก ขณะที่การท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัวเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

การฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกแตกต่างกันมากขึ้น ทั้งประเภทสินค้าและพื้นที่ให้บริการ โดยสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหารขยายตัวได้บ้าง จากกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับกลาง-บน และมีแนวโน้มได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการช้อปดีมีคืน มากกว่าสินค้าประเภทอื่น สำหรับสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค จะเลือกซื้อเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ร้านค้าที่อยู่ในเขตเมืองและพื้นที่ท่องเที่ยว อาทิ กรุงเทพฯ และปริมาณฑล และภาคใต้ จะฟื้นตัวได้ดีกว่าในพื้นที่อื่น 


ธุรกิจค้าปลีกในปี 2566 ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อ ต้นทุนที่สูงขึ้นอาจกดดันให้ต้องปรับราคาสินค้าอีกระลอก และกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคให้อ่อนแอเพิ่มขึ้น, มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่กำลังจะหมดลง ทั้งนี้ ธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่ารายได้จะกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วที่สุดในปี 2567

ประเมินการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยรวมใช้จ่ายลดลงจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นช่วงหลังเทศกาลปีใหม่ประกอบกับราคาสินค้าที่อยู่ในระดับสูง บั่นทอนกำลังซื้อกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย โดยเห็นการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเท่าที่จำเป็น ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับกลาง-บน เลือกไปใช้จ่ายบางส่วนในต่างประเทศหลังสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่