กรมอนามัย เตือนจุดประทัดช่วงตรุษจีนเสี่ยงหูตึง – อันตรายสารเคมี

กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – กรมอนามัย เตือนจุดประทัดช่วงตรุษจีน เสี่ยงหูตึง บาดเจ็บทางผิวหนัง ทั้งยังอาจได้รับอันตรายจากสารเคมี รวมถึงเกิดอัคคีภัย


นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจุดประทัด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งผู้ปกครองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากการโดนสะเก็ดประทัด ทำให้ผิวหนังไหม้ รวมถึงอาจได้รับบาดเจ็บจากประทัดระเบิดจนถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ หรือหากสัมผัสหรือสูดดมเอาสารเคมีที่อยู่ในรูปของเหลว ผง ไอระเหย และควันพิษ เช่น สารโพแทสเซียมเปอร์คลอเรต สารซัลเฟอร์หรือกำมะถัน สารโพแทสเซียมไนเตรต สารแบเรียมไนเตรต เข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง หู ตา จมูก ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะสารแบเรียมไนเตรตที่มีพิษมาก อาจทำลายตับ ม้าม รวมถึงทำให้เกิดอัมพาตที่แขน ขา และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจุดประทัดในแต่ละครั้งอาจก่อให้เกิดเสียงที่มีความดังถึง 130 เดซิเบล เอ ซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการหูตึงชั่วคราว และหากได้ยินติดต่อกันเป็นเวลานานก็อาจส่งผลให้เกิดอาการหูตึงถาวรได้ นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดอัคคีภัยได้หากมีชิ้นส่วนของประทัด กระเด็นไปถูกวัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือนที่ติดไฟง่าย ดังนั้น ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องจุดประทัดในการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน จึงมีข้อควรระวังเพื่อป้องกันอันตราย โดยขอให้ประชาชนเลือกซื้อประทัดที่มีฉลากและแสดงข้อความครบถ้วนโดยเฉพาะภาษาไทย เช่น วิธีใช้ การเก็บรักษา คำเตือนเพื่อความปลอดภัย ชื่อที่อยู่ผู้ผลิตและผู้นำเข้า เป็นต้น รวมถึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ ในการจุดประทัดควรจุดให้ไกลจากบ้านเรือน แนวสายไฟ สถานีน้ำมันเชื้อเพลิง ถังแก๊ส และวัตถุไวไฟ รวมถึงห้ามเด็กจุดหรือถือประทัดเอง และหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีการจุดประทัด นอกจากนี้ ขณะจุดประทัดห้ามก้มหน้าเข้าไปใกล้ประทัด ห้ามโยนประทัดใส่กลุ่มคนเด็ดขาด และห้ามใช้เทียนหรือไฟแช็กในการจุดประทัดโดยตรง ควรใช้ที่จุดที่มีลักษณะเฉพาะและมีลักษณะยาว รวมถึงไม่ควรจุดประทัดครั้งละมาก ๆ


“ทั้งนี้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากประทัดให้ใช้ผ้าชุบน้ำประคบบริเวณบาดแผลหรือเปิดน้ำให้ไหลผ่านประมาณ 10 นาที และปิดด้วยผ้าสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากบาดแผลอยู่ในบริเวณที่มีเสื้อผ้าให้ถอดเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ถูกไฟไหม้ออก หากถอดลำบากให้ตัดเป็นชิ้น ๆ ห้ามทาน้ำมัน ยาสีฟัน ยาหม่อง น้ำปลาหรือสารใด ๆ บนบาดแผล หากบาดเจ็บทางตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมากทันที และรีบโทรขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง