ปูพรมค้นหาผู้สูญหาย ร.ล.สุโขทัย เต็มกำลัง

ประจวบคีรีขันธ์ 24 ธ.ค. – พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เฮลิคอปเตอร์นำกลับเข้าฝั่งท่าเรือประจวบฯ แล้ว เพื่อนำไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ขณะที่กองทัพเรือยังระดมสรรพกำลัง รวมถึงการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ปูพรมค้นหาอย่างเต็มกำลัง


พล.ร.ต.รังสรรค์ บัวเผือก รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.40 น. ได้รับรายงานจากเครื่องบินดอเนียร์ ของทหารเรือ ว่าพบร่างผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่บริเวณเซกเตอร์ที่สี่ และแจ้งให้เรือหลวงกระบุรี ซึ่งปฏิบัติงานอยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว เข้าเก็บกู้ และส่งต่อให้กับเรือหลวงสุโขทัย เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ไปรับกลับเข้าฝั่ง ซึ่งเมื่อประมาณ 11.00 น. เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตเข้าฝั่งที่ท่าเรือประจวบฯ แล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป โดยรถกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตรายล่าสุดไปชันสูตรเบื้องต้นที่มูลนิธิราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน ก่อนส่งต่อไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าผู้เสียชีวิตที่พบล่าสุดในวันนี้เป็น 1 ใน 22 กำลังพลที่สูญหายหรือไม่

จุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตรายล่าสุดคือบริเวณเซ็กเตอร์ที่สี่ ซึ่งเป็นแนวเดียวกับจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในแผนที่ค้นหากคือเซกเตอร์ที่สาม โดยศพลอยอยู่ในระยะใกล้ฝั่งบางสะพานเข้ามา


ปฏิบัติการค้นหา-ช่วยเหลือเหตุ “ร.ล.สุโขทัย”
วันนี้กองทัพเรือยังคงระดมสรรพกำลัง รวมถึงการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ปูพรมค้นหาอย่างเต็มกำลัง การค้นหาในวันนี้ยังคงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 17 เซกเตอร์ มีเรือใหญ่ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนราธิวาส ลาดตระเวนค้นหาในทะเลลึก ส่วนตามแนวชายฝั่งมีเรือจากหลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน เรือประมงพื้นบ้าน รวมถึงเจ็ตสกี ลาดตระเวนตามแนวชายฝั่ง ซึ่งวันนี้ขยายพื้นที่ลงใต้ไปตามทิศทางลม โดยไล่ค้นหาตั้งแต่บางสะพานไปจนถึงอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะประมาณ 200 กิโลเมตร

ส่วนอากาศยานเน้นบินค้นหาบริเวณจุดเรือหลวงสุโขทัยจม รวมถึงจุดที่อยู่เหนือขึ้นไปเพื่อให้ครอบคลุม หลังจากเมื่อวานเรือหลวงบางระจันพบร่างหนึ่งในกำลังพลที่สูญหาย ลอยอยู่ห่างจากจุดที่เรือจมประมาณ 300 เมตร

ที่สำคัญภารกิจค้นหาวันนี้มีการเพิ่มกำลังนักประดาน้ำ พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำที่ทันสมัยที่สุดของประเทศ ลงเรือนาวี จากกรมสรรพวุธทหารเรือ มาร่วมปฏิบัติภารกิจกับเรือหลวงบางระจันที่ทำการโซนาร์สแกน ดูลักษณะการจมของเรือในระยะ 40-50 เมตร


นาวาเอกพงษ์ศักดิ์ รามนุช ผอ.กองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพวุธทหารเรือ เปิดเผยว่า ได้นำนักประดาน้ำและแพทย์ จากกรมสรรพวุธทหารเรือที่มาปฏิบัติภารกิจรวมทั้งหมด 53 นาย เริ่มปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ 08.00 น. โดยจะลงดำเป็นคู่ต่อไดรฟ์ ไดรฟ์ละ 10 นาที เพื่อให้สามารถสำรวจได้ทั้งวัน เป้าหมายหลักคือค้นหาผู้ประสบภัยโดยละเอียด รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมกู้เรือ

ทัศนวิสัยในทะเลวันนี้เลวร้ายมากขึ้นกว่าเมื่อวาน แต่นักประดาน้ำบนเรือนาวีประเมินแล้วว่ามีความปลอดภัย สามารถดำลงได้ แต่นักประดาน้ำยังไม่สามารถเข้าไปในเรือได้ แผนวันนี้ต้องดำอยู่รอบๆ เรือ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง