สเปนระดมกำลังครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงปลอดสงครามเพื่อกู้ภัยน้ำท่วม

cars swept in Spain's worst flooding in its modern history

บาเลนเซีย 3 พ.ย.- สเปนเร่งส่งกำลังพลอีกกว่า 10,000 นาย ช่วยผู้ประสบภัยในแคว้นบาเลนเซีย หลังจากเกิดน้ำท่วมฉับพลันครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสเปน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นอย่างน้อย 214 รายแล้ว เป็นการส่งกำลังพลครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงปลอดสงคราม


pain Prime Minister Pedro Sanchez

นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน แถลงทางสถานีโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ว่า รัฐบาลจะส่งทหารอีก 5,000 นาย ตำรวจและกองกำลังพลเรือนอีก 5,000 นาย ไปยังแคว้นบาเลนเซีย ภาคตะวันออกของประเทศ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ฝนตกหนักเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 214 ราย ถือเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดยุโรปในรอบ 57 ปี นับตั้งแต่เหตุน้ำท่วมใหญ่ในโปรตุเกสเมื่อปี 2510 ที่มีผู้เสียชีวิต 500 คน การเสริมกำลังพลดังกล่าวจะทำให้มีกำลังพลในพื้นที่ทั้งหมด 17,000 นาย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังความมั่นคงสเปนครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงปลอดสงคราม

Rescuers cleanup effort in Spain

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่กำลังเร่งเก็บกวาดซากรถยนต์ต่าง ๆ ที่ถูกกระแสน้ำพัดมาปิดเส้นทางสัญจร รวมถึงค้นหาร่างผู้สูญหาย พร้อมประกาศจำกัดการเดินทางของประชาชนหากไม่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการกีดขวางการจราจร ขณะเดียวกันทหารตำรวจที่เตรียมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยังมีภารกิจลาดตระเวนป้องกันแก๊งคนร้ายที่ฉวยโอกาสซ้ำเติมชาวบ้านด้วยการเข้าไปลักขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนและร้านค้าที่ถูกทิ้งร้าง เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ผู้ถูกจับกุมจะถูกลงโทษตามกฎหมายสูงสุด


Volunteers line up for cleanup effort in Spain

นอกจากนี้ยังมีอาสามัครซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปนับหมื่นคนจากทั่วประเทศ เดินทางมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาด ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้า เก็บกวาดโคลนและเศษซากจากถนน  พวกเขาเผยว่า ไม่สามารถอยู่บ้านเฉย ๆ ได้ เมื่อเพื่อนร่วมชาติเผชิญความยากลำบาก พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินความพยายามช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบเคราะห์กรรมให้มากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย