รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมกองทัพเรือ

วังนันทอุทยาน 25 ต.ค.-“ภูมิธรรม” รมว.กลาโหมตรวจเยี่ยม ทร. มอบนโยบายความมั่นคงทางทะเล กวาดล้างยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ย้ำให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนรับภัยพิบัติรูปแบบใหม่ที่อาจเกิดขึ้น ชมผู้บังคับบัญชาดูแลกำลังพล ตามนโยบายรัฐบาลเป็นอย่างดี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพเรือ อย่างเป็นทางการ เพื่อรับทราบถึงภารกิจและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของหน่วยต่อไป โดยมี พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้การต้อนรับ


โดย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย และตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุปถึงภารกิจ การดำเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การให้ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

จากนั้นนายภูมิธรรม ได้ ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมมอบนโยบาย ว่ากองทัพเรือ เป็นหน่วยงานที่แตกต่างจากหน่วยงานของกองทัพ อีกหลายส่วน เพราะต้องปฏิบัติงานทั้งทางบก และทางทะเล วันนี้โดยรวม กองทัพเรือ ได้มีการเตรียมการในการปฏิบัติหน้าที่หลายอย่าง มีความพร้อมพอสมควร ทั้งการจัดกำลังหน่วย โครงสร้างของกองทัพเรือ และการวางแผนปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทั้งนี้ตนเองดูแล้วทุกเรื่องน่าจะครบถ้วน แต่ปัญหาสำคัญก็คือเรื่องขอการปฎิบัติ ซึ่งได้มอบหมายในทุกเรื่องที่เป็นนโยบาย โดยตั้งเป้าให้เป็นรูปธรรม มากขึ้น มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสวัสดิการของกำลังพลนั้น ก็ถือว่าได้ทำตามนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ทั้งบ้านพักอาศัยก็ได้มีการดำเนินการ รวมถึงเรื่องปัญหาหนี้สินของกำลังพล โดยกองทัพเรือเอง ก็ได้ดึงเอาสถาบันการเงินและหลายส่วนมาใช้แก้ไขปัญหาด้วย ซึ่งจากการดูเรื่องดอกเบี้ยนั้นต่ำอยู่แล้ว มีทั้งสหกรณ์ของกองทัพเรือ และอีกหลายหลายหน่วยงาน รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ก็ได้นำมาช่วยเหลือกำลังพลด้วย

สำหรับเรื่องที่ดินในการปลูกบ้านพักอาศัยของกำลังพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังพลชั้นผู้น้อย เราได้ให้ความสำคัญ และดูแลเป็นรายปีอยู่แล้ว

“ผมได้เพิ่มข้อเสนอไป ซึ่งต้องคุยกับทาง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) และ ผู้บัญชาการทหารเรือ ทั้งนี้เป็นไปได้ที่เราจะใช้รายละเอียดของที่ดินที่มีอยู่ของกองทัพ งบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็มีการจัดสรรเพื่อที่จะช่วยเหลือ ซึ่งขอศึกษาในรายละเอียดก่อน แต่เป็นแนวทางเพิ่มเติมที่สามารถทำได้“รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าว


พร้อมกันนี้ยังได้มอบนโยบายในเรื่องของภัยพิบัติ รูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะภัยที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ฝนตกดินถล่มน้ำท่วม รวมถึงภัยธรรมชาติอื่นๆอีกหลายส่วน และกองทัพเอง ก็มีหน่วยที่ดำเนินการดูแลอยู่แล้ว แต่เราต้องเพิ่มศักยภาพความสามารถเรื่องนี้ให้มากขึ้น

รวมถึงด้านความมั่นคงต่างๆทั้งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้มีการดำเนินการแก้ไขดีอยู่แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าทุกอย่างได้ดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการเกณฑ์ทหาร ก็ได้ให้ไปศึกษา และประสานงานกับกองทัพบก เพราะกองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็ยังไม่ได้มีประสบการณ์ตรงนี้ ซึ่งจะมีรายละเอียด ที่จะต้องพูดคุยกันหารือกันเพื่อหาทางออกปัญหาต่างๆร่วมกัน

นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีของกองทัพให้มีความเข้มแข็ง และสอดคล้องกับการปรับลดระดับกำลังพลให้เกิผลลัพอย่างเป็นรูปธรรม เพราะสังคมมีความกังวลอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรายละเอียดว่าจะทำได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีปัญหามาโดยตลอด โดยตนเองได้เสนอไปแล้วว่ามัน เป็นเรื่องของการเปลี่ยนผ่าน ต้องดำเนินการอย่างมีกระบวนการ และช่วงเวลา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่จะต้องเห็นถึงกระบวนการทำความเข้าใจเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ให้มากขึ้น

สำหรับเรื่องการทำร้ายทหาร เราได้คุยกับผู้บังคับบัญชาในหลายส่วน เรามีนโยบายที่ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว แม้เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นน้อยครั้ง แต่บทบาทของทหาร คือการช่วยเหลือประชาชนมันมีมากกว่า พอมันเกิดขึ้นก็ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่จะเกิดขึ้น ดูแล้วเรื่องนี้เราพูดชัดเจนแล้วว่าไม่อยากมันเกิดแต่เราก็ต้องปรับมาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาในภาคส่วนต่างๆก็จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาทบทวน เพื่อหาทางออกร่วมกัน พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชาทุกภาคส่วนให้แก้ไขปัญหาจัดการได้อย่างชัดเจนเพื่อให้ประชาชนสบายใจ

จากนั้น นายภูมธรรม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ณ ฐานทัพเรือกรุงเทพ และตรวจเยี่ยมความพร้อมเรือพระราชพิธีในการเตรียมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างามและสมพระเกียรติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการถวายความปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ