นนทบุรี 22 ธ.ค.-กรมการค้าต่างประเทศจับมือกรมการข้าว เปิดหน่วยบริการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี เดินหน้าการค้าข้าวไทยสู่ตลาดโลกด้วยคุณภาพมาตรฐาน ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดข้าวคุณภาพของ ระบุ 10 เดือน 65 ยอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยส่งออกแล้ว 1.28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 27 จากช่วงเดียวกันของปี 2564
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้ กรมฯได้ร่วมมือกับกรมการข้าวเดินหน้าดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทย เพื่อพัฒนายกระดับอำนวยความสะดวกการส่งออกและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันข้าวไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะการพัฒนาหน่วยบริการตรวจสอบมาตรฐานข้าวไทย ขณะนี้ความร่วมมือดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก ได้จัดตั้งหน่วยบริการตรวจสอบดีเอ็นเอข้าวไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะข้าวคุณภาพระดับโลกอย่างข้าวหอมมะลิไทยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไป
ทั้งนี้ ในปี 2567 คาดว่าจะมีปริมาณการค้าข้าวในตลาดโลกขยายตัวทดแทนธัญพืชอื่น ๆ ที่เกิดภาวะขาดแคลนตลอดจนเป็นการสร้างทางเลือกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวตั้งแต่ระดับต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าเกษตรกร โรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าว สามารถเข้าถึงบริการตรวจสอบการปลอมปนพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีดีเอ็นเอที่ทันสมัยและแม่นยำสูงได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง กระตุ้นให้เกิดการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยทั้งระบบถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทยในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ภาพรวมการค้าข้าวไทยถือได้ว่าสดใส โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย ในช่วง 10 เดือนแรก(ม.ค. – ต.ค.) มีการส่งออกแล้ว 1.28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 27 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 และมีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากภาคเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการปลดล็อคนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) ของจีน อีกทั้ง ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้บริโภคในต่างประเทศที่ยังคงเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งการเปิดศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี เป็นหน่วยบริการตรวจสอบดีเอ็นเอข้างต้น จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นแต้มต่อทางการตลาดของข้าวไทยในสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงของตลาดข้าวในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย