ทำเนียบฯ 20 ธ.ค.-ครม.เห็นชอบมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 24 กิจกรรม เตือนภัยข่าวปลอมทางเป๋าตัง ฟรีค่าโทร-ส่งSMS ลดค่าส่งEMS
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.มีมติเมื่อวันที่20 ธันวาคม 2565 เห็นชอบและรับทราบมาตรการของขวัญปีใหม่ 2566 ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ จำนวน 24 กิจกรรม อาทิ เช่น
1. แจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงทางออนไลน์และข่าวปลอม ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป ให้ประชาชนรู้เท่าทันและสามารถรับมือกับการหลอกลวงรูปแบบใหม่ได้
2. ยกเว้นบริการค่าโทร เช่น บริการ NT Voice ยกเว้นค่าโทรที่โทรไปยังเลขหมายปลายทางที่เป็น Fixed Line/IP Phone ของ NT ทั่วไทย (วันที่ 30 ธ.ค. 65 – 2 ม.ค. 66) และบริการ my โทรฟรีในเครือข่าย และส่ง SMS ฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (วันที่ 31 ธ.ค. 65 – 1 ม.ค. 66)
3. ส่วนลดค่าบริการไปรษณีย์ไทยด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศ ร้อยละ 19-48 สำหรับประชาชนที่ใช้บริการแบบWalk In (วันที่ 26 ธ.ค. 65 – 5 ม.ค. 66)
4. ให้ผู้ประกอบการ SMEs ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยลดค่าใช้จ่าย ร้อยละ 250 ในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษา/ฝึกอบรม หรือในการจัดฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง โดยเฉพาะทักษะดิจิทัล
5. จัดให้มีบริการ/นวัตกรรมด้านดิจิทัลภาครัฐสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เช่น ระบบการหางาน ห้องสมุดออนไลน์ระบบการเดินทาง และระบบสวัสดิการด้านสุขภาพ
6. เพิ่มจำนวนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้สามารถรองรับการใช้งานของคนพิการและคนทุกกลุ่ม
7. ยกเว้นค่าบริการข้อมูลสารสนเทศด้านอุตุนิยมวิทยาและสถิติภูมิอากาศของประเทศ (1-15 ม.ค. 66) ผ่านเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
8. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมให้ดาวโหลดสติ๊กเกอร์ “อัศวินต่อต้านข่าวปลอม” ฟรี ผ่าน Line Sticker Shop @antifakenewscenter สามารถใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 90 วัน
9. จัดงาน NSO Data Camp งานประชุมเสวนาวิชาการและนิทรรศการการใช้ประโยชน์ข้อมูลสถิติ และกิจกรรมนักสถิติรุ่นเยาว์สัญจร เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลสถิติ (เดือน ม.ค. – ก.พ. 66)
10. สร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้กับประชาชน ผ่านสื่อวีดิทัศน์ และอินโฟกราฟิก ผ่านสื่อส่วนกลางของ สนง. คกก. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (วันที่ 28 ธ.ค. 65 – 3 ม.ค. 66)
11. ส่งเสริมการมี Digital ID เพื่อให้ประชาชนประหยัดเวลา/ค่าใช้จ่าย และปลอดภัยในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนได้สะดวก ลดความเสี่ยงการถูกปลอมแปลงตัวตน (คาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือน ม.ค. 66)
12. นำผลสำรวจความต้องการของประชาชน สำหรับการวางแผนช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานรัฐ ปี 66เสนอครม. ต่อไป เช่น เรื่องควบคุมราคาสินค้าอุปโภค – บริโภค ลดค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา/ค่าอินเทอร์เน็ต และแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร .-สำนักข่าวไทย