กฟผ. เริ่มผลิตไฟฟ้าจากแม่เมาะเครื่องที่ 4 ช่วยลดค่าไฟ

กรุงเทพฯ 14 ธ.ค.- กฟผ. เดินหน้าช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง นำโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4 ที่ปลดออกจากระบบไฟฟ้ามาปรับปรุงสภาพให้สามารถกลับมาเดินเครื่องใหม่แล้วเมื่อ 11 ธ.ค. 65


นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการนำโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 กลับมาเดินเครื่องว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เห็นชอบให้ กฟผ. นำโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 กลับมาผลิตไฟฟ้า เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนจากผลกระทบราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น กฟผ. ได้ทดสอบการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 ทั้งระบบการผลิต และระบบกำจัดมลสาร ให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย กฟผ. จะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าภายใต้ EHIA ที่ กกพ. อนุมัติ ซึ่งได้จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้วเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยลดการนำเข้า LNG ส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงโดยรวมลดลง และลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในช่วงวิกฤติพลังงานโลก

สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ ได้ปลดออกจากระบบไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562 กฟผ. ได้ทำการปรับปรุงให้มีความพร้อมในการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า โดยมีกำหนดเดินเครื่องระหว่างเดือนธันวาคม 2565 – ธันวาคม 2568 คิดเป็นค่าพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ประมาณ 1,643 ล้านหน่วย ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) จากต่างประเทศที่มีความผันผวนและมีราคาสูงลงได้ประมาณ 10,800 ล้านบาท เป็นการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนได้อีกทางหนึ่ง


ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ปรับการผลิตไฟฟ้าเพื่อช่วยลดผลกระทบจากวิกฤติพลังงานโลก โดยเลื่อนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 จากเดือนธันวาคม 2564 ออกไปจนถึงเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงเดือนธันวาคม 2565 ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงแล้วประมาณ 13,623 ล้านบาท และปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าบางปะกงเป็นน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล ซึ่งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนกันยายน 2565 ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงแล้วประมาณ 2,378 ล้านบาท รวมถึงปรับแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP)

นอกจากนี้ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 กฟผ. ยังรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงค่าก๊าซฯ แทนประชาชนเป็นการชั่วคราวไปแล้วกว่า 122,257 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ