ลอนดอน 14 ธ.ค.- ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษลดลงเกินคาดในเดือนพฤศจิกายน โดยอยู่ที่ร้อยละ 10.7 จากที่เคยสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ร้อยละ 11.1 ในเดือนตุลาคม
ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอ (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ ลดลงมากกว่าที่คาดในเดือนนี้ ทั้งในอังกฤษ สหรัฐ และเขตยูโรโซน จุดประกายความหวังว่าภาวะเงินเฟ้อสูงในปัจจุบันอาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่วนซีพีไอหลักของอังกฤษ ซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน อาหาร สุราและยาสูบ ที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่า ชี้วัดแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวได้ดีกว่าซีพีไอ ลดลงจากร้อยละ 6.5 ในเดือนตุลาคม เหลือร้อยละ 6.3 ในเดือนพฤศจิกายน เงินเฟ้ออังกฤษเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เพราะภาวะคอขวดที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ หลังผ่านพ้นโควิด-19 จากนั้นเพิ่มสูงยิ่งขึ้นเพราะราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
ธนาคารกลางอังกฤษหรือบีโออี (BoE) ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ร้อยละ 2 และได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมากตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า บีโออีจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งจากร้อยละ 3 ในขณะนี้ เป็นร้อยละ 3.5 ในการประชุมวันพฤหัสบดี บีโออีคาดการณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า อังกฤษกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยยาวนาน อัตราเงินเฟ้อจะไม่ลดลงมาถึงระดับเป้าหมายก่อนต้นปี 2567 และชี้ว่าการขาดแคลนแรงงาน ความขัดแย้งทางการค้า และคนเข้าเมืองเพราะการที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือที่เรียกว่าเบร็กซิต มีส่วนทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น.-สำนักข่าวไทย