จันทบุรี 5 พ.ค.-จากมนุษย์เงินเดือน ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ สานต่อสวนผลไม้ใน จ.จันทบุรี ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 วางแผนปลูกไม้ผลที่ให้ผลผลิตทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ทำให้มีรายได้หมุนเวียนทุกเดือน
กฤติเดช อยู่รอด เกษตรกรหนุ่ม ต.แสลง อ.เมือง จ.จันทบุรี กำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตจากสวน ทั้งมังคุด สละ ที่แก่เต็มที่เตรียมส่งขายในตลาด ก่อนหน้านี้ กฤติเดช ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ได้ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรสานต่อจากพ่อ เพราะอยากทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9
มังคุดสายพันธุ์จันทบุรี ซึ่งเป็นพันธุ์ประจำท้องถิ่น ที่กฤติเดช นำมาปลูก เพราะปลูกง่าย เหมาะกับทุกสภาพดินและสภาพอากาศร้อนชื้น เกษตกรส่วนใหญ่นิยมขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เพื่อจะได้ต้นมังคุดที่มีรากแก้วแข็งแรง พอต้นสูงประมาณ 1 ฟุต จะตัดยอดและนำกิ่งมังคุดสายพันธุ์ที่ดีที่สุดไปเสียบยอด
รดน้ำ บำรุงต้นใส่ปุ๋ยขี้ไก่ เพื่อเพิ่มแร่ธาตุอาหาร พอต้นอายุ 6 ปี จะเริ่มออกดอกและติดผล ไม่เกินอีก 90 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตขาย มีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามารับซื้อถึงสวน กิโลกรัมละ 120-160 บาท
ส่วนการปลูกสละ ใช้กิ่งพันธุ์เช่นกัน เว้นระยะห่าง 10 คูณ 10 เมตร การดูแลเหมือนกับการปลูกมังคุด พอสละอายุได้ 3 ปี จะเริ่มออกดอก ช่วงนี้ต้องมีการผสมเกสร โดยตัดช่อดอกตัวผู้ที่บานแล้วมาเคาะใส่ช่อดอกตัวเมีย เมื่อสละติดผลไม่เกิน 8 เดือน จะได้สละรสชาติดีพร้อมเก็บขาย ที่สำคัญทั้งมุงคุดและสละปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บผลผลิตขายได้ยาวนานถึง 100 ปี
กฤติเดช ยังแนะนำเกษตรกรยุคใหม่ที่สนใจปลูกมังคุดและสละว่า ควรมีการวางแผนปลูกไม้ผลที่มีการให้ผลผลิตทั้งระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนในแต่ละเดือน เช่น ปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม แซมในพื้นที่ว่าง ในช่วงที่รอผลผลิตของมังคุด และสละ ที่ให้ผลผลิตเพียงปีละครั้ง.-สำนักข่าวไทย