ชลบุรี 4 พ.ค.- แจ้งความได้! ผกก.พัทยา ชี้แท็กซี่ล้อมเก๋งนึกว่าอูเบอร์ เข้าข่ายผิดอาญา กักขังหน่วงเหนี่ยว
จากกรณีที่มีกลุ่มผู้ประกอบการรถสหกรณ์แท็กซี่ บ.โลมาพัทยา จำกัด กว่า 20 คัน ขับรถไล่ล่ารถยนต์ ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ประกอบ ในสังกัด “อูเบอร์” หลังรับผู้โดยสารชาวต่างชาติ จากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า บริเวณ ถ.พัทยาสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่สุดท้ายพบว่าหญิงที่ขับรถดังกล่าวเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่รับนักท่องเที่ยวชาวจีนไปดูสถานที่ห้องชุดในเขตเมืองพัทยา จ.ชลบุรี กระทั่งสุดท้ายมีการเจราจรยอมความ
นายศุภฤทธิ์ บุญแสง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นคณะกรรมการสหกรณ์แท็กซี่โลมาพัทยา ชี้แจงว่าตนเองได้เรียกกลุ่มที่มีปัญหาในวันเกิดเหตุมาสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวทราบว่า รถยนต์คู่กรณี มาจอดรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติสัญชาติจีนอยู่ในรถจำนวน 3 คน จากหน้าเซ็นทรัล มารีน่า พัทยาเหนือ ก่อนที่กลุ่มคนแท็กซี่จะเข้าไปสอบถาม แต่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นลูกค้าส่วนตัวที่โทรให้มารับพาไปหาซื้อคอนโด ในเขตเมืองพัทยา จากนั้นกลุ่มแท็กซี่จะขอพูดคุยกับ นักเที่ยวก่อน แต่คนขับหญิงได้ให้นักเที่ยวขึ้นรถ และขับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เพื่อนในกลุ่มแท็กซี่จะกระโดดไปขวางรถยนต์ไว้ และทำถ้าจะชน จึงได้ติดตามไป รถยนต์นั้นวิ่งเส้นถนนเลียบชายหาดพัทยา ซึ่งเส้นทางดังกล่าว ก่อนจะไปถึงจุดเกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งนั้น จากเส้นทางนี้ต้องผ่าน หน้าสภ.เมืองพัทยา ก่อน แต่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ บริเวณทางลงสะพานท่าเทียบเรือพัทยาใต้ ซึ่งทำให้แปลกใจทำไมถึงไม่จอดหน้าโรงพักตั้งแต่แรก ขับเลยไปจนจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามจากคลิปไม่มีการทำร้ายร่างกาย และข่มขู่แต่อย่างใด
พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพรช ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้เสียหาย คือ น.ส.สุพรรณี ธรรมพิทักษ์ อายุ 31 ปี หากจะเอาเรื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็สามารถเดินทางเข้ามาแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ซึ่งถ้าเข้าแจ้งความ ด้านกลุ่มแท็กซี่ ที่นำพวกไปปิดล้อม จะมีความผิดทันที ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว อย่างไรก็ตามจากภาพดังกล่าวทำให้เมืองพัทยา ตกอยู่ในด้านลบ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ ทาง ผกก.สภ.เมือพัทยา ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากขนส่ง และผู้ประกอบการแท็กซี่ มาเพื่อประชุมหารือ พร้อมทั้งชี้แจ้งข้อกฎหมายเด็ดขาดในเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย