ทำเนียบรัฐบาล 9 ธ.ค.-นายกฯ ปลื้มนักลงทุนซาอุดีอาระเบียมีแผนร่วมลงทุนกับไทยในกลุ่มธุรกิจด้านอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ และในพื้นที่อีอีซี
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า ซาอุดีอาระเบีย มีแผนเตรียมจะลงทุนธุรกิจในไทยด้านอาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ และในพื้นที่อีอีซี เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ เกิดเงินหมุนเวียนในไทยจำนวนมาก โดยในส่วนของความร่วมมือการดำเนินธุรกิจระหว่างกัน เห็นผลเป็นรูปธรรมจากการลงทุนของซาอุดีอาระเบียกับไทยจำนวนมาก อาทิ กลุ่มธุรกิจอาหารส่งออกและแปรรูป ที่องค์การอาหารและยา ซาอุดีอาระเบีย อนุญาตให้ 11 โรงงานของไทยที่ผ่านการตรวจสอบส่งออกไก่ได้ ถัดมาคือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ที่สายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabian Airlines) เปิดบินตรงจากกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สู่ไทย จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สร้างความตื่นตัวให้แก่ภาคการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากเส้นทางบินสามารถเชื่อมต่อจากกรุงริยาด (Riyadh) ที่เป็นเมืองหลัก และเมืองเจดดาห์ (Jeddah) ที่เป็นเมืองรองได้
“ส่วนของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เพิ่มสวัสดิการ ด้านสาธารณสุขให้ประชาชนมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของไทยที่อนุมัติหลักการเพิ่มประเทศซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและสามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน ตลอดจนนักลงทุนซาอุดีอาระเบียมีแผนลงในไทยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ECC) จำนวนหลายโครงการ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนุชา กล่าวว่า ผลสำเร็จจากการทำงานของรัฐบาลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลลัพธ์เป็นดอกผลทางเศรษฐกิจ ผลที่เกิดเป็นมิตรสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เมื่อมาประกอบกับการดำเนินการนโยบายของรัฐบาลที่ได้สร้างความเจริญด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงเห็นเป็นผลสำเร็จที่เป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะส่งผลถึงคุณภาพชีวิต รายได้ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกกลุ่ม อย่างมั่นคงและยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย