เริ่มกู้รถไฟตกราง – ผู้ต้องสงสัยวางบึ้มให้การปฏิเสธ

สงขลา 4 ธ.ค. – เริ่มกู้ซากรถไฟตกราง จังหวัดสงขลา บางส่วน พบทั้งตู้รถไฟและรางเสียหายหนัก ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว 1 คน ให้การปฏิเสธ ถูกปล่อยตัวแล้ว


ความคืบหน้าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถไฟ 707 หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์บรรทุกยางพาราไปประเทศมาเลเซีย ในพื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ทำให้ตู้รถไฟตกราง 10 ตู้ จากทั้งหมด 15 ตู้ พนักงานรถไฟประจำขบวน 4 นาย ปลอดภัย ซึ่งตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต่างระดมกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ตรวจซ้ำพื้นที่เกิดเหตุและโดยรอบอย่างละเอียด ก่อนที่ชุดพิสูจน์หลักฐานจะเข้าเก็บหลักฐาน เพื่อนำไปประมวลผล เปรียบเทียบการวางระเบิดกับคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้

และเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งทหารตำรวจฝ่ายปกครองและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่ของการรถไฟร่วมกันเข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของรางรถไฟ ตู้โบกี้และตู้คอนเทนเนอร์เป็นครั้งแรกหลังจากมีการเคลียร์พื้นที่จนปลอดภัย พบว่ารางรถไฟเสียหายหนัก สภาพฉีกขาด โดยเฉพาะจุดที่เกิดระเบิด รางเละไม้หมอนกระจุย โบกี้รถไฟมีทั้งที่ยังอยู่บนราง และพลิกคว่ำไปอยู่ริมทาง ตู้โบกี้ที่ถูกวางระเบิดล้อหลุด ความแรงของระเบิดยังทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ฉีกขาด หน่วยซ่อมบำรุงทางหาดใหญ่เริ่มเข้ากู้ซากรถไฟบางส่วนก่อนจะนำเครื่องจักรไปยกโบกี้และตู้คอนเทนเนอร์ในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) และเริ่มบูรณะเส้นทางรถไฟทั้งหมด


ด้านตำรวจชุดสืบสวนทั้งจากภาค 9 ตำรวจภูธร จ.สงขลา และตำรวจ สภ.สะเดา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางเข้าออกรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง อ.สะเดา นาทวี จะนะ และเทพา เพราะคาดว่าคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ มีทั้งคนในพื้นที่และเดินทางมาจากนอกพื้นที่สำหรับผู้ต้องสงสัย 1 คน ที่ถูกควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำตลอดคืนที่ผ่านมา ยังไม่พบข้อพิรุธและความเชื่อมโยง จึงปล่อยตัวไป

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ จากการปิดล้อมพื้นที่หมู่ 6 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา สามารถจับกุมนายจีรศักดิ์ แนวร่วมก่อความไม่สงบได้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับนายอัซมัน ไปสำรวจเส้นทาง เพื่อลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟสาย หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ พุ่งเป้าที่ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้า หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งสำรวจหลายจุด แต่จุดที่ที่เหมาะสมคือ บริเวณบ้านท่าโพธิ์ ต.คลองแงะ อ.สะเดา บริเวณใกล้กับสะพานเหล็กข้ามคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุในครั้งนี้ โดยได้รับคำสั่งจากนายอับดุล สอเหร็ม แนวร่วมระดับสั่งการ ซึ่งถูกวิสามัญฯ ในพื้นที่อำเภอเทพาไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่า เหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นฝีมือของนายอัซมัน และพวก

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า กล่าวหลังลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่เส้นทางรถไฟบริเวณจุดเกิดเหตุทั้งหมดแล้ว ไม่พบระเบิดเพิ่มเติม ยืนยันว่ามีระเบิดเพียงลูกเดียวซึ่งฝังไว้ใต้รางรถไฟ และมีขนาดใหญ่ เป็นการบังคับจุด ซึ่งหมายความว่า ตอนเกิดเหตุมีคนร้ายอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย เป้าหมายต้องการจุดระเบิดหัวรถจักรโบกี้ที่อยู่หน้าขบวนเพื่อให้รถไฟตกรางทั้งขบวน ส่วนของสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ น่าจะมีทั้งคนในและคนนอกพื้นที่ร่วมก่อเหตุ ทั้งคนที่มาดูเส้นทางและคนลงมือ ซึ่งวันนี้จะเรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งหมดในภาค 9 รวมทั้งทหารและชุดการข่าวในพื้นที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และไล่กล้องวงจรปิดหาตัวผู้ต้องสงสัยเริ่มตั้งแต่เส้นทางที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่ อ.เทพา อ.จะนะ อ.นาทวี จนมาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนลอบวางระเบิดรถไฟครั้งนี้ ทางการข่าวได้รับรายงานว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุมาตลอด เพื่อทำลายความเชื่อมั่นทั้งการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจการค้า


หลังเกิดเหตุ หน่วยงานด้านความมั่นคงในจังหวัดสงขลาได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะย่านการค้า การท่องเที่ยว ทั้งในอำเภอหาดใหญ่ อำเภอเมือง อำเภอสะเดา รวมถึง 4 อำเภอรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง