BIG STORY : แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด

22 มี.ค. – แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ป่วนเดือนรอมฎอน


ผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดป่วน จ.ปัตตานี รวม 20 จุด
เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 มี.ค.) ช่วงประมาณตี 1 เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของ จ.ปัตตานี 23 จุด ใน 10 อำเภอ คือ อ.เมือง 1 จุด อ.มายอ 2 จุด อ.ยะหริ่ง 1 จุด อ.ยะรัง 3 จุด อ.โคกโพธิ์ 2 จุด อ.หนองจิก 2 จุด อ.ทุ่งยางแดง 3 จุด อ.ไม้แก่น 2 จุด อ.กะพ้อ 2 จุด และ อ.สายบุรี 2 จุด มีทั้งเหตุลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ วางเพลิงเสาไฟฟ้า วางเพลิงสำนักงานการไฟฟ้า เผายางรถยนต์ และลอบวางเพลิงที่พักรีสอร์ต แต่ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินคือ เหตุเกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.เกาะจัน อ.มายอ

ระเบิดปั๊มน้ำมันระหว่างก่อสร้าง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ผู้สื่อข่าวลงที่เกิดเหตุพบว่าเป็นปั๊มที่กำลังก่อสร้าง มีกำหนดให้เปิดบริการเดือนพฤษภาคมนี้ ตรวจสอบพบว่าจุดระเบิดอยู่ที่ตู้หัวจ่ายน้ำมัน แรงระเบิดทำให้ตู้จ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน เสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในปั๊มกระจกแตกเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นแรงงานหญิงชาวเมียนมา อายุ 27 ปี โดยจุดนี้คาดมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ลักลอบเข้ามาด้านหลังปั๊มน้ำมัน โดยนำอาวุธ ระเบิด ถังแก๊สปิกนิกขนาดเล็กสีส้ม 2 ลูก มาวางไว้ที่ตู้จ่ายน้ำมัน 2 จุด และมีการเผายางรถเพื่อป้องกันการติดตาม จากนั้นประมาณ 5 นาที เกิดระเบิดที่วางไว้ 1 ลูก แรงระเบิดทำให้ตู้หัวจ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ได้รับความเสียหาย แรงระเบิดยังทำให้แรงงานหญิงชาวเมียนมาที่นอนพักภายในแคมป์คนงานและอยู่ใกล้จุดระเบิด ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต


ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ-เผาโรงงาน
ส่วน จ.ยะลา มีเหตุป่วนรวม 11 จุด กระจายใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ยะหา และ อ.ธารโต นอกจากมีการลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อแล้ว ยังมีการลอบวางเพลิงโรงงานแก๊สหุงต้มขนาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้มีรายงานว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 7 คน ถืออาวุธครบมือ บุกเข้าไปจับตัวคนงานและมัดมือเอาไว้ จากนั้นงัดประตูเหล็กด้านหลังและเข้าไปก่อเหตุวางเพลิงเผาในโรงงาน เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังเร่งดับไฟ และสามารถช่วยคนงานได้ปลอดภัยทุกคน นอกจากนี้ยังวางเพลิงเผาร้านเฟอร์นิเจอร์ เสาไฟฟ้า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ โรยตะปูเรือใบ เผายางรถยนต์ถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งว่ามีเสียงระเบิด 3-4 ครั้ง ที่โรงโม่หิน ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านลิดล อ.เมืองยะลา

ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงรถก่อสร้างถนน-กล้องซีซีทีวี
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เกิดเหตุใน 6 อำเภอ 7 จุด เช่น อ.แว้ง คนร้ายลอบวางเพลิง บ.ซาเล่ต์ ฟอร์เรส นรา จำกัด ซึ่งรับซื้อไม้มาทำการแปรรูป และวางเพลิงรถโฟล์คลิฟต์ ซึ่งจอดอยู่ในโรงเรือน เสียหาย ส่วนจุดอื่น เช่น อ.สุไหงปาดี ลอบวางเพลิงรถปูยางมะตอย 1 คัน รถยนต์บดถนนแบบล้อยาง 2 คัน รถบดถนนแบบล้อเหล็ก 2 คัน ที่จอดไว้ริมถนนบ้านบาโงฮูมอ ม.5 ต.ริโก๋ เพื่อรอก่อสร้างถนนสายสุไหงปาดี สุไหงโก-ลก เสียหาย 4 คัน อ.เจาะไอร้อง

ลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 2 คัน รถโกยตัก 2 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ 2 คัน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง ที่จอดและติดตั้งไว้ในโรงงานอุตสาหกรรมนราดินเสียหาย อ.จะแนะ คนร้าย 20 คน แต่งกายชุดดำสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า มีอาวุธปืนครบมือ ได้บุกเข้าไปใน บ.เอเซียเหมืองแร่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านไอร์บาลอ ม.6 ต.ช้างเผือก จับกุมคนงานที่ทำหน้าที่เฝ้าเวรยามมัดไว้ ก่อนคนร้ายจะแยกย้ายกันลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และบ้านพักคนงาน 1 หลัง ส่วนที่ อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร ลอบวางเพลิงกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้บริเวณเสาไฟฟ้า เสียหายรวม 3 ตัว


นายกฯ กำชับทหาร-ตร.ดูแลเหตุป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ ซึ่งนายกฯ แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ลงพื้นที่ไปดูแลและควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมทั้ง สั่งการผ่านผู้บัญชาการทหารบกให้แม่ทัพภาคที่ 4 ไปดูแลเหตุดังกล่าวแล้ว ส่วนมีความเกี่ยวเนื่องกับวันครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ตากใบด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบต้องการแสดงกำลังช่วงเดือนรอมฎอน เป็นการแสดงกำลัง

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เผยเหตุป่วนใต้คืนเดียวรวม 44 จุด
พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปภาพรวมเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 มีนาคม กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ก่อกวนหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

ภาพรวมพบกลุ่มผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่รวม 44 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 13.30 น.) เกิดขึ้นพื้นที่ จ.ยะลา 12 จุด ปัตตานี 23 จุด นราธิวาส 7 จุด สงขลา 2 จุด

แบ่งเป็นเหตุลอบวางระเบิด 1 เหตุ ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.มายอ จ.ปัตตานี มีแรงงานหญิงเมียนมาเสียชีวิต 1 ราย และเหตุการณ์ลอบวางเพลิง 43 เหตุ มีทั้งร้านสะดวกซื้อ เสาส่งสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ เผารถยนต์-ยางรถยนต์ กล้องวงจรปิด CCTV เสาไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี รีสอร์ต โรงไม้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ โรงโม่หิน เหมืองแร่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงงานผลิตเมทัลชีท โรงบรรจุก๊าซ

ทัพภาคที่ 4 สั่งการเร่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร็ว
ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กำชับหน่วยในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการอย่างเข้มงวด โดยมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามขยายผล ตรวจสอบวัตถุพยาน รวบรวมหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ผู้ก่อเหตุหวังทำลายความสงบช่วงเดือนรอมฎอน
ส่วนสาเหตุเชื่อผู้ก่อเหตุมุ่งหวังทำลายระบบสาธารณูปโภค ระบบเศรษฐกิจ สร้างสถานการณ์ทำลายบรรยากาศเดือนรอมฎอนสันติสุข ก่อกวนในการประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยไม่คำนึงถึงหลักการอันดีงามของศาสนา

ทั้งนี้ หากประชาชนพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่แจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร.06 1173 2999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิด เช่น นำพาซ่อนเร้น สนับสนุนที่พักพิง เสบียงอาหาร มีความผิดตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ป่วนพื้นที่จังหวัดภาคใต้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้เดินทางตรวจจุดเกิดเหตุจากเหตุการณ์คนร้ายก่อกวน ป่วนในพื้นที่ จ.ยะลา บริเวณยะลาสหพัฒน์แก๊ส อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อรับทราบสถานการณ์ พร้อมพบปะกับผู้ประกอบการ นำข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก่อนเดินทางไปที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่กับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม warroom ศปก.ตร.สน. โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ช่วงนี้อยู่ในเทศกาลถือศีลอด ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ต้องเพิ่มความเข้มในมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องของประชาชนมากยิ่งขึ้น ฝ่ายความมั่นคงจะได้ประชุมกันและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายและวางมาตรการเพิ่มขึ้นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะเป็นช่วงที่มีการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพื่อผลบุญอันสูงสุด คนร้ายมักใช้ช่วงเวลานี้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]