BIG STORY : แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด

22 มี.ค. – แม่ทัพภาค 4 สั่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุป่วนใต้คืนเดียว 44 จุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ป่วนเดือนรอมฎอน


ผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดป่วน จ.ปัตตานี รวม 20 จุด
เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 มี.ค.) ช่วงประมาณตี 1 เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของ จ.ปัตตานี 23 จุด ใน 10 อำเภอ คือ อ.เมือง 1 จุด อ.มายอ 2 จุด อ.ยะหริ่ง 1 จุด อ.ยะรัง 3 จุด อ.โคกโพธิ์ 2 จุด อ.หนองจิก 2 จุด อ.ทุ่งยางแดง 3 จุด อ.ไม้แก่น 2 จุด อ.กะพ้อ 2 จุด และ อ.สายบุรี 2 จุด มีทั้งเหตุลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ วางเพลิงเสาไฟฟ้า วางเพลิงสำนักงานการไฟฟ้า เผายางรถยนต์ และลอบวางเพลิงที่พักรีสอร์ต แต่ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินคือ เหตุเกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.เกาะจัน อ.มายอ

ระเบิดปั๊มน้ำมันระหว่างก่อสร้าง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ผู้สื่อข่าวลงที่เกิดเหตุพบว่าเป็นปั๊มที่กำลังก่อสร้าง มีกำหนดให้เปิดบริการเดือนพฤษภาคมนี้ ตรวจสอบพบว่าจุดระเบิดอยู่ที่ตู้หัวจ่ายน้ำมัน แรงระเบิดทำให้ตู้จ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน เสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในปั๊มกระจกแตกเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นแรงงานหญิงชาวเมียนมา อายุ 27 ปี โดยจุดนี้คาดมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ลักลอบเข้ามาด้านหลังปั๊มน้ำมัน โดยนำอาวุธ ระเบิด ถังแก๊สปิกนิกขนาดเล็กสีส้ม 2 ลูก มาวางไว้ที่ตู้จ่ายน้ำมัน 2 จุด และมีการเผายางรถเพื่อป้องกันการติดตาม จากนั้นประมาณ 5 นาที เกิดระเบิดที่วางไว้ 1 ลูก แรงระเบิดทำให้ตู้หัวจ่ายน้ำมัน อาคารจ่ายน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ได้รับความเสียหาย แรงระเบิดยังทำให้แรงงานหญิงชาวเมียนมาที่นอนพักภายในแคมป์คนงานและอยู่ใกล้จุดระเบิด ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต


ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ-เผาโรงงาน
ส่วน จ.ยะลา มีเหตุป่วนรวม 11 จุด กระจายใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.บันนังสตา อ.รามัน อ.ยะหา และ อ.ธารโต นอกจากมีการลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อแล้ว ยังมีการลอบวางเพลิงโรงงานแก๊สหุงต้มขนาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้มีรายงานว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 7 คน ถืออาวุธครบมือ บุกเข้าไปจับตัวคนงานและมัดมือเอาไว้ จากนั้นงัดประตูเหล็กด้านหลังและเข้าไปก่อเหตุวางเพลิงเผาในโรงงาน เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังเร่งดับไฟ และสามารถช่วยคนงานได้ปลอดภัยทุกคน นอกจากนี้ยังวางเพลิงเผาร้านเฟอร์นิเจอร์ เสาไฟฟ้า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ โรยตะปูเรือใบ เผายางรถยนต์ถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งว่ามีเสียงระเบิด 3-4 ครั้ง ที่โรงโม่หิน ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านลิดล อ.เมืองยะลา

ผู้ก่อเหตุรุนแรงวางเพลิงรถก่อสร้างถนน-กล้องซีซีทีวี
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เกิดเหตุใน 6 อำเภอ 7 จุด เช่น อ.แว้ง คนร้ายลอบวางเพลิง บ.ซาเล่ต์ ฟอร์เรส นรา จำกัด ซึ่งรับซื้อไม้มาทำการแปรรูป และวางเพลิงรถโฟล์คลิฟต์ ซึ่งจอดอยู่ในโรงเรือน เสียหาย ส่วนจุดอื่น เช่น อ.สุไหงปาดี ลอบวางเพลิงรถปูยางมะตอย 1 คัน รถยนต์บดถนนแบบล้อยาง 2 คัน รถบดถนนแบบล้อเหล็ก 2 คัน ที่จอดไว้ริมถนนบ้านบาโงฮูมอ ม.5 ต.ริโก๋ เพื่อรอก่อสร้างถนนสายสุไหงปาดี สุไหงโก-ลก เสียหาย 4 คัน อ.เจาะไอร้อง

ลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 2 คัน รถโกยตัก 2 คัน รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ 2 คัน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง ที่จอดและติดตั้งไว้ในโรงงานอุตสาหกรรมนราดินเสียหาย อ.จะแนะ คนร้าย 20 คน แต่งกายชุดดำสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า มีอาวุธปืนครบมือ ได้บุกเข้าไปใน บ.เอเซียเหมืองแร่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านไอร์บาลอ ม.6 ต.ช้างเผือก จับกุมคนงานที่ทำหน้าที่เฝ้าเวรยามมัดไว้ ก่อนคนร้ายจะแยกย้ายกันลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และบ้านพักคนงาน 1 หลัง ส่วนที่ อ.รือเสาะ และ อ.ศรีสาคร ลอบวางเพลิงกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้บริเวณเสาไฟฟ้า เสียหายรวม 3 ตัว


นายกฯ กำชับทหาร-ตร.ดูแลเหตุป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้
หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ ซึ่งนายกฯ แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกำชับให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ลงพื้นที่ไปดูแลและควบคุมสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมทั้ง สั่งการผ่านผู้บัญชาการทหารบกให้แม่ทัพภาคที่ 4 ไปดูแลเหตุดังกล่าวแล้ว ส่วนมีความเกี่ยวเนื่องกับวันครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ตากใบด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่เชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบต้องการแสดงกำลังช่วงเดือนรอมฎอน เป็นการแสดงกำลัง

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เผยเหตุป่วนใต้คืนเดียวรวม 44 จุด
พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปภาพรวมเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 มีนาคม กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ก่อกวนหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

ภาพรวมพบกลุ่มผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่รวม 44 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 13.30 น.) เกิดขึ้นพื้นที่ จ.ยะลา 12 จุด ปัตตานี 23 จุด นราธิวาส 7 จุด สงขลา 2 จุด

แบ่งเป็นเหตุลอบวางระเบิด 1 เหตุ ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.มายอ จ.ปัตตานี มีแรงงานหญิงเมียนมาเสียชีวิต 1 ราย และเหตุการณ์ลอบวางเพลิง 43 เหตุ มีทั้งร้านสะดวกซื้อ เสาส่งสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ เผารถยนต์-ยางรถยนต์ กล้องวงจรปิด CCTV เสาไฟฟ้า สายเคเบิลทีวี รีสอร์ต โรงไม้ ร้านเฟอร์นิเจอร์ โรงโม่หิน เหมืองแร่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงงานผลิตเมทัลชีท โรงบรรจุก๊าซ

ทัพภาคที่ 4 สั่งการเร่งขยายผลจับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยเร็ว
ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กำชับหน่วยในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน ยกระดับการรักษาความปลอดภัยฐานปฏิบัติการอย่างเข้มงวด โดยมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามขยายผล ตรวจสอบวัตถุพยาน รวบรวมหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ผู้ก่อเหตุหวังทำลายความสงบช่วงเดือนรอมฎอน
ส่วนสาเหตุเชื่อผู้ก่อเหตุมุ่งหวังทำลายระบบสาธารณูปโภค ระบบเศรษฐกิจ สร้างสถานการณ์ทำลายบรรยากาศเดือนรอมฎอนสันติสุข ก่อกวนในการประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยไม่คำนึงถึงหลักการอันดีงามของศาสนา

ทั้งนี้ หากประชาชนพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่แจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร.06 1173 2999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิด เช่น นำพาซ่อนเร้น สนับสนุนที่พักพิง เสบียงอาหาร มีความผิดตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ป่วนพื้นที่จังหวัดภาคใต้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้เดินทางตรวจจุดเกิดเหตุจากเหตุการณ์คนร้ายก่อกวน ป่วนในพื้นที่ จ.ยะลา บริเวณยะลาสหพัฒน์แก๊ส อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อรับทราบสถานการณ์ พร้อมพบปะกับผู้ประกอบการ นำข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก่อนเดินทางไปที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่กับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม warroom ศปก.ตร.สน. โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ช่วงนี้อยู่ในเทศกาลถือศีลอด ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ต้องเพิ่มความเข้มในมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องของประชาชนมากยิ่งขึ้น ฝ่ายความมั่นคงจะได้ประชุมกันและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายและวางมาตรการเพิ่มขึ้นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะเป็นช่วงที่มีการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพื่อผลบุญอันสูงสุด คนร้ายมักใช้ช่วงเวลานี้ในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย