เพลิงไหม้บ้านเก่าอายุเกือบ 100 ปี ชุมชนวานิชสัมพันธ์

กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – ระทึกกลางดึก ไฟไหม้บ้านเก่าอายุเกือบ 100 ปี ชุมชนวานิชสัมพันธ์ ย่านตลาดน้อย บ้านเสียหาย 2 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ การดับเพลิงสุดทุลักทุเล เนื่องจากซอยแคบ


เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.42 น. เมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้าน ชุมชนวานิชสัมพันธ์ ซอยเจริญกรุง 22 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร อาคารพาณิชย์ ครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง แสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากเกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 และลุกลามลงชั้นล่าง ก่อนจะไหม้ลามไปติดบ้านที่อยู่ติดกันอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัด แต่การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากเป็นซอยแคบ รถดับเพลิงขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึงต้นเพลิงได้ต้องช่วยกันแบกเครื่องหาบหามเข้าไปอย่างทุลักทุเล ประกอบกับชาวบ้านต่างขนของหนีกันโกลาหล โดยใช้เวลากว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ มีบ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นางสุมิตรา ซึ่งอยู่ข้างบ้านต้นเพลิง บอกว่า ตอนเกิดเหตุนอนหลับอยู่ คนในบ้านมาปลุก เห็นควันจึงรีบแจ้งดับเพลิง ไฟลุกไหม้เร็วมาก ออกมาหยิบได้แค่โทรศัพท์กับแมสก์ 1 อัน ส่วนบ้านต้นเพลิงไม่มีคนอยู่ เจ้าของบ้านน่าจะออกไปรับแฟนข้างนอก


ด้านนายวีระยุทธ เพื่อนบ้านเล่าว่า ขณะเกิดเหตุยังหลับอยู่ในบ้าน ภรรยามาปลุก บอกไฟไหม้ เมื่อวิ่งออกมาดูหน้าบ้านก็เห็นเพลิงไหม้บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านแล้ว พยายามเอาถังดับเพลิงขึ้นไปฉีดเบื้องต้น แต่ขึ้นไปไม่ได้เพราะด้านในบ้านมีของวางอยู่จำนวนมาก จนปิดทางเดินหมด เนื่องจากเจ้าของบ้านมีอาชีพค้าขายของเก่าอยู่คลองถม จึงสะสมของเก่าไว้เยอะมาก สำหรับบ้านบริเวณนี้ เป็นของกรมธนารักษ์ อายุกว่า 100 ปีแล้ว

ชาวบ้านต่างบอกว่าเสียดาย เพราะชุมชนนี้ เป็นบ้านเก่าทรงโบราณ อายุเกือบ 100 ปี ซึ่งหาดูได้ยากแล้วแถวนั้น ส่วนสาเหตุตำรวจยังไม่สรุปต้องเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นได้นำเชือกมากั้นไม่ให้เข้าพื้นที่ชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง