ท่าน้ำภาณุรังษี 9 เม.ย. – “ศิธา” ลงพื้นที่ตลาดน้อย ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน ดันเศรษฐกิจดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่ท้อโพลรั้งท้าย เชื่อไม่น้อยหน้าผู้สมัครอื่นในการเข้าถึงชาวบ้าน
น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการ กทม. หมายเลข 11 และ นายศรัณยู คงสวัสดิ์เกียรติ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตสัมพันธวงศ์ ลงพื้นที่ตลาดน้อย ท่าน้ำภาณุรังษี เขตสัมพันธวงศ์ ภายใต้ กิจกรรม Bangkok Creative City : มหานครแห่งความสร้างสรรค์ วัฒนธรรมสร้างเศรษฐกิจ นำรายได้สู่เมืองหลวง เพื่อพบปะชาวบ้านมและผู้ประกอบการตลาดน้อย
น.ต.ศิธา กล่าวว่า พื้นที่ตลาดน้อย เป็นพื้นที่ที่มีศิลปะวัฒนธรรม มีเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์ ถ้าได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และมีชาวบ้านเข้ามาช่วย จะเป็นพื้นที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก และสามารถสร้างเศรษฐกิจให้พื้นที่ โดยมองว่าควรพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และวัฒนธรรมได้หรือไม่ อาทิ การขี่จักรยาน มีเลนจักรยานที่ชัดเจน พื้นที่เดินชมเมือง ผ่านแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พื้นที่เขตคลองเตย มีชาวต่างชาติ รับนักท่องเที่ยวมาขี่จักรยานในเมืองไทย เข้าไปดูชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยไม่สนใจ
ทั้งนี้จะชูอัตลักษณ์ และมีมาสคอตของแต่ละพื้นที่ เพิ่มอำนาจให้ประชาชนร่วมแสดงความเห็น พัฒนาพื้นที่ของตนเอง ให้มีพลัง เพราะการออกกฎหมายต่างๆ ขณะนี้ ไม่ได้สนับสนุนให้ชาวบ้านสามารถดำรงชีพได้ ซึ่งตนก็จะเร่งแก้ไขในจุดนี้
ส่วนการลงพื้นที่ขณะนี้เป็นไปตามเป้าหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า เป้าของเราคือการทำประโยชน์ให้ประชาชน ต้องการให้พรรคเป็นสถาบันการเมือง สร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ เป็นมรดกกับลูกหลาน ยืนยันว่าจะทำให้ประชาชนเห็นว่าตนเองและพรรค จะทำ กทม. ให้เป็นโมเดลตัวอย่าง ให้ประชาชนได้เห็นว่าเราจะทำอะไร ให้คนที่มีแนวคิดต้องการย้ายประเทศได้เห็น เพื่อเปลี่ยนความคิด ว่ามีผู้ใหญ่รับฟังความเห็นของคนรุ่นใหม่
ขณะที่การจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่สาธารณะนั้น มองว่า ถนนที่มีทางเท้าขนาดใหญ่ สามารถค้าขายได้ และต้องอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ เพื่อยังคงความเป็นสตรีทฟู๊ด ที่ถือเป็นจุดขายของไทย ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจโดยมองว่าเรื่องนี้ต้องมีความอะลุ้มอล่วยกัน และต้องจัดสถานที่ให้สามารถ ดูแลเรื่องสุขอนามัย เพื่อทำความสะอาดสิ่งของต่างๆ ได้ ป้องกันเรื่องความสกปรกบนพื้นที่ทางเดิน เพื่อยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ
น.ต.ศิธา กล่าวถึงเรื่องป้ายหาเสียงของพรรค ว่า มีป้ายที่พัง และถูกขีดเขียนบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และได้เตรียมป้ายสำรองไว้อยู่แล้ว หากป้ายถูกทำลายก็ให้ไปเปลี่ยน ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาต่างๆ
ขณะที่ผลโพลชื่อของ น.ต.ศิธา ยังรั้งท้าย ต้องมีการปรับกลยุทธ์อะไรหรือไม่นั้น น.ต.ศิธา กล่าวว่า โพลไม่เคยเป็นอุปสรรคให้ท้อถอย แต่ละโพลมีความแตกต่างกันไป เป็นมุมมองของประชาชน และต้องยอมรับว่า โซเชียลต้องใช้เวลาในการนำเสนอตัวตน ที่ผ่านมา 20 ปี ตนลงพื้นที่มาโดยตลอด รู้ในปัญหาอย่างดี แต่ถ้าประชาชนยังมองไม่เห็น ก็ไม่ท้อถอยและยังจะทำต่อไป ส่วนกลยุทธ์ยังคงเหมือนเดิม และทำเต็มที่ แต่คงเพิ่มเรื่องการอธิบายให้ประชาชนเห็นว่าเราทำอะไรมาบ้าง เชื่อว่าการเข้าใจปัญหาของชาวบ้าน ตนไม่น้อยหน้าใคร.-สำนักข่าวไทย