ปธ.สภา ต้อนรับ ประธานาธิบดีเวียดนาม

รัฐสภา 17 พ.ย.-ประธานรัฐสภาต้อนรับ ประธานาธิบดีเวียดนาม โอกาสเป็นแขกรัฐบาล ร่วมประชุมเอเปค พร้อมมอบ “ต้นยมชวน” ที่เคยได้รับจากเวียดนามและนำมาขยายพันธุ์จนแพร่หลาย สะท้อนความสัมพันธ์สองประเทศ


นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้การต้อนรับ นายเหวียน ซวน ฟุก (H.E. Mr. Nguyen Xuan Phuc) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ เข้าพบหารือ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย และเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปค 2022)  ครั้งที่29 โอกาสนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมต้อนรับด้วย

การพบปะหารือครั้งนี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  ซาบซึ้งใจและขอบคุณนายชวน ที่นำต้นยมชวนได้รับมอบจากเวียดนาม เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในปี 2536  โดยนายชวนได้นำมาเพาะพันธุ์ในจ.ตรัง จนปัจจุบันขยายพันธุ์แพร่หลายทั่วประเทศ สื่อถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศที่เจริญงอกงามอย่างต่อเนื่องภายใต้ความร่วมมือด้านต่าง ๆ


ขณะที่นายชวนชื่นชมประชาชนเวียดนามที่ให้ความสำคัญกับการสวมหมวกกันน็อกนิรภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องนี้

สำหรับการเยือนประเทศไทยของ ประธานาธิบดีเวียดนาม ครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการเยือนครั้งแรกที่ประมุขแห่งรัฐของเวียดนามมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 24 ปี รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาเคยพบกับนายเหวียน ซวน ฟุก ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึงสองครั้ง ในโอกาสไปเยือนอย่างสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ เมื่อปี2560 และที่นายเหวียน ซวน ฟุกมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีเดียวกัน ใน ฐานะนายกรัฐมนตรีของเวียดนาม

ทั้งนี้ จากการพบปะหารือกันในวันนี้ ฝ่ายไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเห็นพ้องที่จะกระชับและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่เวียดนามและไทยเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง (Strengthened Strategic Partnership) และมีแผนพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงมีความตกลงว่าด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือระหว่างกัน ตลอดจนการสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister Cities) ซึ่งล้วนแต่จะเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และความอยู่ดีกินดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง